วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ปิดบ่อนไก่ชน"แอ๊ด บาว"


"แอ๊ด บาว" โวยโดนปิดบ่อนไก่ชน จี้รัฐเรื่องวัคซีนอย่าดีแต่พูด
สมาคมไก่ชนโวยโดนสั่งปิดบ่อน ยันไก่ชนไม่ใช่แหล่งแพร่เชื้อไข้หวัดนก ติงรัฐบาลกำลังทำลายอาชีพชาวบ้านรากหญ้า เสนอตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในการควบคุมหวัดนกล้มเหลว “แอ๊ด”ระบุวัคซีนหวัดนกในไก่ชนไม่คืบเป็นเพียงแค่ลมปากนายกฯ ฝ่ายปฏิบัติยังไม่ดำเนินการอะไรเลย พร้อมตั้งข้อสงสัยก่อนเลือกตั้งไม่ประกาศสั่งปิด
ในการแถลงข่าวเรื่อง “การใช้วัคซันป้องกันโรคไข้หวัดนกในไก่ชนและมาตรการของรัฐในการสั่งปิดสนามชนไก่” โดย นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ อุปนายกสมาคมสงเสริมอาชีพไก่ชนไทย เปิดเผยว่า จากที่มีข่าวออกมาว่าจะมีการสั่งปิดสนามชนไก่โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคไข้หวัดนกนั้น ขอชี้แจงว่า ที่มาที่ไปของค่ำสั่งนี้มาจากการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไข้หวัดนกที่ล้มเหลวของรัฐบาล เนื่องจากยังมีการระบาดอยู่ทั่วไปโดยที่นโยบายของภาครัฐไม่สามารถควบคุมได้ แต่การที่รัฐออกมาแถลงว่าสาเหตุที่โรคไข้หวัดนกยังมีการแพร่กระจายอยู่เพราะยังมีการอุ้มไก่ชนไปชนกัน โดยอ้างข้อมูลว่าตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกในไก่ชนเป็นระยะๆ นั้นคาสิโน
ตนขอยืนยันว่าตั้งแต่มีการหาเชื้อไข้หวัดนกในไก่ชนไม่เคยมีการตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกในสนามชนไก่เลย เพราะชาวบ้านดูแลไก่ชนอย่างดีตามภูมิปัญญาที่ได้สั่งสมมา ขณะเดียวกันก็ไม่เคยมีการแพร่เชื้อไข้หวัดนกจากไก่ชนไปยังสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ ด้วย นอกจากนั้นประชาชนที่คลุกคลีอยู่กับไก่ ก็ไม่เคยมีรายงานว่าติดเชื้อจากไก่แม้แต่น้อย ดังนั้นตรรกะที่บอกว่า ไข้หวัดนกยังไม่จบเพราะมีสนามชนไก่ จึงไม่ถูกต้อง แต่เป็นการทึกทักเอาเอง โดยเอาไก่ชนเป็นแพะ
อุปนายกสมาคมสงเสริมอาชีพไก่ชนไทย กล่าวต่อว่า หากเป็นเช่นนี้ เมื่อรัฐสั่งให้หยุดการชนไก่โดยสั่งปิดสนามนั้น รัฐบาลเคยรู้หรือไม่ว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนในระดับรากหญ้าที่เลี้ยงไก่ชนเป็นอาชีพ กว่า 7 ล้านคน รัฐบาลไม่คิดว่านี่คืออาชีพเหมือนที่ฟาร์มไก่และบริษัทส่งออกไก่ทำกันรัฐบาลจึงไม่สนใจ
ดังนั้นในวันนี้สมาคมจึงมีมติ 3 ประการด้วยกัน 1. ขอยืนยันว่าการชนไก่ไม่ได้เป็นแหล่งหรือสาเหตุสำคัญของการแพร่เชื้อไข้หวัดนก 2. กีฬาชนไก่เป็นอาชีพที่ประชาชนกว่า 7 ล้านคน นิยมเล่นกันเป็นสันทนาการและหาเลี้ยงชีพเท่ากับรัฐบาลกำลังทำลายอาชีพของประชาชน 3. ขอเรียกร้องว่าขอให้สังคมตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติการควบคุมไข้หวัดนกมาเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ล้มเหลวมาตลอดไม่สามารถควบคุมได้ ท้ายที่สุดก็ใช้ไก่ชนมาเป็นแพะ
นายสัตวแพทย์ชัย ยังกล่าวถึงการมีมติให้ใช้วัคซีนในไก่ชนด้วยว่า จนถึงขณะนี้ล่วงเลยมา 3 สัปดาห์ แต่ความกระตือรือร้นของข้าราชการไทยยังไม่มี ที่เคยมีการแถลงว่าจะเตรียมการใช้วัคซีนในไก่ ท่าทีเหมือนเป็นการดื้อแพ่งคาสิโน
ต่อมติครม.ตนขอเรียกร้องให้ดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็ว
ด้าน นายปรารถนา งามวงศ์วาน นายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมืองไทย กล่าวว่า ในภาคใต้ซึ่งยังมีสนามชนไก่และที่ผ่านมาไม่เคยหยุดกิจกรรมการชนไก่เลย กลับไม่มีรายงานการอุบัติของโรคไข้หวัดนกในภาคใต้เลยแม้แต่น้อย มีแต่การายงานในภาคเหนือ อีสานและกลางเท่านั้น ข้อมูลนี้แสดงว่าไก่ชนไม่ได้เป็นสาเหตุของการแพร่กระจายไข้หวัดนก ในเรื่องการสั่งปิดสนามชนไก่ ถ้ามองในมุมกลับจะเกิดบ่อนวิ่ง บ่อนป่า และบ่อนเถื่อนจำนวนมากก็เท่ากับควบคุมยากเข้าไปอีก ในส่วนของการมีมติให้ใช้วัคซีนหวัดนกในไก่ชนผู้รับผิดชอบก็ยังไม่ดำเนินการอย่างไร อยากถามว่า “จะปล่อยให้เป็นแบบนี้อีกนานไหม”
ขณะที่นายยืนยง โอภากุล หรือ “แอ็ด” คาราบาว นายกสมาคมส่งเสริมอาชีพไก่ชนไทย ระบุว่า ตั้งแต่ พ.ศ. 2525 นายสิทธิ์ จิระโรจน์ รมต.มหาดไทยออกกฎกระทรวงไม่ให้มีการออกใบอนุญาตชนไก่ขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่นั้นมาสนามชนไก่ก็ลดลงและบ่อนเถื่อนก็เพิ่มมากขึ้น จนถึงรัฐบาลทักษิณ 1 ที่มองการณ์ไกล เห็นว่ากีฬาชนไก่เป็นกีฬาท้องถิ่นที่จะส่งเสริมอาชีพชาวบ้านได้ จึงได้สั่งการให้มีการแก้กฎกระทรวงและให้อำนาจผู้ว่าฯ ซีอีโอเป็นผู้อนุมัติสนามชนไก่ได้ แต่มีช่องโหว่คือไม่มีกรอบและบรรทัดฐานในการอนุมัติ ทุกอยางขึ้นอยู่กับผู้ว่าเพียงคนเดียว จึงอยากให้มีกรอบเป็นแบบแผนเดียวกันทั่วทั้งประเทศ
อีกทั้งขณะนี้หลังจากมีคำสั่งให้ปิดสนามชนไก่ก็จะมีผลกระทบต่อประชาชนมหาศาล แต่เราไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน ซึ่งจากการร้องเรียนเข้ามาพบว่าชาวบ้านเดือนร้อนกันมาก บางจังหวัด ผู้ว่าฯ ไม่เข้าใจแต่อยากสนองนโยบายรัฐก็สั่งปิดสนามชนไก่ จนชาวบ้านที่เลี้ยงเป็นอาชีพอยู่ไม่ได้ ยิ่งมีปัญหาเรื่องภัยแล้งยิ่งเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรเข้าไปอีก ขอเรียนว่าไม่มีใครเอาไก่ที่เป็นโรคชนในสนานอย่างแน่นอน เจ้าของต้องดูแลอย่างดี
สิ่งที่น่าสงสัยคือ ทำไมไม่ประกาศนโยบายนี้ก่อนการเลือกตั้ง ถ้าปิดบ่อนไก่ชาวบ้านจะอยู่กันอย่างไร ต้องดูที่วิถีชีวิตของประชาชนรากหญ้าด้วย ส่วนเรื่องวัคซีนก็เหมือนสั่งปากเปล่าแต่ไม่ดำเนินการอะไรเลย ฝากตรงนี้ถึงรัฐบาลให้เร่งดำเนินการโดยเร็วด้วย เพราะประชาชนเดือนร้อนกันไปทั่วแล้ว
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพนันชนไก่และกัดปลา พ.ศ.2552 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2552 เป็นต้นไป ออกมาได้จังหวะเวลาต้อนรับหน้าตีไก่พอดี

การพนัน หรือ กีฬาตีไก่ ตีกันทั้งปี แต่ในช่วงหลังสงกรานต์ไปจนถึงออกพรรษา จะไม่ค่อยมี อาจจะเป็นเพราะเข้าหน้าฝน ไก่จะติดหวัดง่าย เลยถือเป็นช่วงพักแข้ง ประคบประหงม ออกกำลังยืดเส้นยืดสาย อยู่แต่ในซุ้ม รอฤดูกาลใหม่ หลังออกพรรษา หมดฝนแล้ว

กระทรวงมหาดไทยห้ามเปิดบ่อนไก่มาเกือบ 30 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยพลเอกสิทธิ จิรโรจน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะปู่สิทธิไม่ชอบอบายมุขและจำกัดให้ตีไก่ได้เฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีความพยายามจากผู้ที่ชอบตีไก่ที่จะผลักดันให้มีการแก้ไขให้มีการเปิดบ่อนไก่ แต่ก็ไม่เป็นผล มาสำเร็จเอาในยุคที่พรรคภูมิใจไทยครองอำนาจในกระทรวงมหาดไทย
คาสิโน
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ ซึ่งลงนามโดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม อนุญาตให้เปิดบ่อนไก่ได้โดยเสรีทั่วประเทศ ใครที่มีอายุ 35 ปี สัญชาติไทย ไม่เคยล้มละลาย ไม่เคยติดคุก ถ้าติดแต่พ้นโทษมาแล้วเกิน 2 ปี ก็เปิดได้ โดยขออนุญาตกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในต่างจังหวัด ถ้าในกรุงเทพเป็นอำนาจของอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

สาระสำคัญอีกข้อหนึ่งคือ เพิ่มวันชนไก่ จากเดิมที่ให้เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ ก็เพิ่มเป็นทุกเสาร์อาทิตย์ หรือเดือนละ 8 วัน แต่ให้มีการพนันกันได้ ไม่เกิน 5 วัน และต้องไม่ตรงกับวัน เฉลิมพระชนมพรรษา และวันสำคัญทางศาสนา

เชื่อหรือว่า เซียนพนันจะไปนั่งดูไก่ตีกันสนุกๆ โดยไม่นึกอยากจะได้เสียกัน ใน 3 วัน ที่ตีไก่ได้ แต่ห้ามพนัน

นายชวรัตน์ ไม่ชอบตีไก่ ถนัดแต่ปั่นจิ้งหรีด แต่นักการเมืองในสังกัดพรรคภูมิใจไทยหลายคน ชอบไก่ชน โดยเฉพาะนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งเป็นเจ้าของไก่ชนตัวเก่งจำนวนมาก และลือกันว่า เขาคือเจ้าของสนามชนไก่ เทิดไท ที่ลาดกระบัง ซึ่งเพิ่งจะจัดมหกรรมกีฬาไก่ชนไปเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมนี้ มีนายชวรัตน์ นายเนวิน ชิดชอบ นายยืนยง โอภากุล และนายธนินท์ เจียรวนนท์ ซึ่งชอบไก่ชนเหมือนกัน ถึงขนาดมีบ่อนของตัวเองที่อำเภอ แสนตุ้ง จังหวัดตราด ไปร่วมงานด้วย

การเปิดเสรีบ่อนไก่ชน และเพิ่มวันตีไก่ครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย น่าจะได้ประโยชน์ ทางการเมือง ที่สามารถนำไปหาเสียงได้ว่า เป็นผลงานของพรรคที่ทำให้เปิดบ่อนไก่ได้ทั่วประเทศ จังหวัดหนึ่งจะเปิดสักบ่อนก็ได้ ไม่มีข้อจำกัด

การชนไก่ แม้จะเป็นความโหดร้าย สำหรับคนจำนวนมาก แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยในต่างจังหวัด ที่ชอบเลี้ยงไก่ชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ. และผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ส่วนใหญ่จะเลี้ยงไก่ชน คนเหล่านี้คือ ฐานคะแนนเสียงท่าสำคัญในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง
คาสิโน
เลี้ยงไก่ชนแล้ว ถ้าไม่อุ้มไปตี กินเดิมพันกับไก่ของคนอื่นๆ ก็ไม่สนุก และไม่รู้ว่าจะเลี้ยงไปทำไม แต่ที่ผ่านมา บ่อนไก่ใหญ่ๆมีน้อย และเปิดเฉพาะวันอาทิตย์ ถ้าหาคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อกันไม่ได้ ก็ต้องรอไปถึงอาทิตย์หน้า เลยช่วงที่ไก่ฟิตเต็มที่พร้อมที่จะชนไปแล้ว ต้องเริ่มซ้อมกันใหม่

แต่ต่อไปนี้ ทุกจังหวัดในประเทศไทยจะมีบ่อนไก่ใหญ่ๆ บางจังหวัดอาจจะมีทุกอำเภอก็เป็นไปได้ ไม่ต้องเสียเวลาอุ้มไก่ข้ามจังหวัดไปเปรียบหาคุ่ชก และจะร่ำลือไปทั่วภาคอีสานอันเป็นสมรภูมิที่พรรคภูมิใจไทย ต้องขับเคี่ยวกับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า เพราะมีเนวิน และพรรคภูมิใจไทย เราจึงมีบ่อนไก่ในวันนี้

รายได้ของบ่อนไก่ มาจากการขายตั๋วเข้าชม ราคาตั้งแต่ 50 -200 บาท แล้วแต่ที่นั่ง ขายอาหาร เครื่องดื่มให้คนที่เข้ามาเล่นพนัน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่กันทั้งวัน ต้องดื่ม และรายได้ก้อนใหญ่จาก ส่วนแบ่ง 10 % ของเงินวางเดิมพัน ที่เจ้าของไก่ที่แพ้ต้องจ่ายให้กับเจ้าของบ่อน ซึ่งเดิมพันนั้น มีตั้งแต่หลักหมื่น ถึงแสน แล้วแต่ชื่อชั้นของไก่ และเจ้าของไก่

บ่อนไก่ แต่ละแห่งจึงน่าจะมีเงินหมุนเวียนไม่น้อยในแต่ละเดือน ใครที่ได้ใบอนุญาตเปิดบ่อน ก็ถือว่าโชคดี เป็นเจ้าของธุรกิจที่ไม่มีวันขาดทุน และต้องสำนึกในบุญคุณของผู้ที่หยิบยื่นโอกาสนี้มาให้ คือ พรรคภูมิใจไทย

การเปิดเสรีบ่อนไก่ชน จึงเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่เหนือชั้นของพรรคภูมิใจไทย แต่ว่า เป็นกลายุทธ์ที่ไม่คำนึงถึง ศีลธรรม จรรยา ผลกระทบต่อสังคม เพราะการให้เปิดบ่อนไก่ได้โดยเสรี ก็คือ การส่งเสริมให้คนไทยเล่นพนัน มัวเมาในอบายมุขกันมากขึ้นคาสิโน

เสาร์อาทิตย์ตื่นแต่เช้า เข้าบ่อนไก่ ระหว่างรอผลแพ้ชนะ ก็พนันปลากัดฆ่าเวลาไปพลางๆ หรือไม่ก็หันไปพนันมวยตู้ที่ทางบ่อนเปิดให้ดู ตกเย็นบ่อนเลิก กลับไปแทงบอลพรีเมียร์ลีก

เป็นวิธีการที่เอาแต่ได้ โดยไม่สนใจว่า สังคมจะเป็นอย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น