วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วัวชน

พัทลุง ได้ชื่อว่าเป็นเมืองเกษตรที่ยั่งยืนของภาคใต้ โดยเฉพาะทางด้านปศุสัตว์ จนพัทลุงมีคนเรียกขานว่า "เมืองโคบาล" ทั้งนี้เนื่องจากพัทลุงเป็นเมืองที่เลี้ยง "วัว" รายใหญ่สุดของภาคใต้ก็ว่า มีทั้งวัวเนื้อ วัวนม วัวชน ตลอดจนบรรดาเซียนวัวชนด้วย โดยประมาณมีวัวอยู่สัก 100,000 ตัว เลี้ยงทั้งประเภทฟาร์มธุรกิจขนาดใหญ่ เลี้ยงแบบรายย่อย และเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม ก็มีอยู่จำนวนมาก
คุณกอเส็ม สุขขาว คนหนุ่มวัยกว่า 30 คาสิโนปี อยู่หมู่ที่ 3 บ้านด่านโลด ตำบลแม่ขรี อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง อาชีพหลักเป็นเจ้าของสวนยางพารา แต่นิยมชมชอบการเลี้ยงวัวชนเป็นชีวิตจิตใจ ได้บอกว่า ตระกูลตนนั้นนับตั้งแต่พ่อได้เลี้ยงวัวชนมาตลอด และรักวัวชนเป็นชีวิตจิตใจ แล้วก็เลี้ยงวัวชนมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
"พอกรีดยางพารา ซึ่งเป็นอาชีพหลักเสร็จแล้ว พอยังมีเวลาที่เหลืออยู่ ก็หันมาเลี้ยงวัวชน อันเป็นที่รักและชื่นชอบ อีกทั้งยังได้เป็นอาชีพเสริมอีกอาชีพหนึ่ง และสามารถทำรายได้เสริมนำมาจุนเจือครอบครัวได้อีกทางหนึ่งด้วย แต่ก็เลี้ยงไม่มาก โดยเลี้ยงภายในครัวเรือน" คุณกอเส็ม บอก
หากจะเลี้ยงวัวชนมากกว่านี้ โดยเลี้ยงประมาณ 5 ตัว ก็ต้องมีคนเลี้ยงหรือเรียกว่า "ควาญ" เข้ามาเสริมอีก วัวชน 1 ตัว ต่อควาญวัว 1 คน โดยควาญจะทำหน้าที่เลี้ยงวัวชน ตัดหญ้าให้วัวกิน จูงวัวเดินออกกำลังกาย และก็ต้องเฝ้าคอกวัว เป็นต้น

วัวชน บรรดาเซียนวัวจะดูบุคลิกของวัว ว่าขวัญสมบูรณ์ รูปร่างหน้าสง่างาม ยอดวงงาม หรือเรียกว่าเขายาว ให้ดีขนาด 30 เซนติเมตร ร่างกายบึกบึนหนาแน่น เนื้อเต็มไปด้วยมัดกล้าม แขน ขา ท่าเดิน ท่วงทำนองเข้มแข็ง และด้านหลังหางต้องร่วง คาสิโน
รูปร่างสีที่เป็นยอดนิยม รูปร่างดำเนียน สีแดง สีโหนด สีลางสาด ส่วนสีขาว สีลาย นานๆ ก็เจอบ้าง
คุณกอเส็ม ได้บอกว่า การเลี้ยงวัวชน สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงที่สุดของการเลี้ยงวัวชน คือวัวชนเชื้อสายพันธุ์ ต้องดูความเป็นมาของพ่อแม่ด้วย แต่ให้ดีถ้าวัวชนติดไปทางเชื้อสายแม่จะดีกว่า
แล้วมาถึงวิธีการเลี้ยงวัวชน คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่พ้น คือต้องมียาบำรุง ซึ่งมีจำหน่ายอยู่ตามสนามวัวชนทั่วๆ ไป ส่วนหญ้าคืออาหารหลัก วัวชนจะนิยมชมชอบหญ้า แต่จะผลัดเปลี่ยนกัน วัวชนกินไป มีทั้งหญ้าแห้ง หญ้าเปียก แต่ที่มีคุณภาพทางโภชนาการ สุขภาพอนามัยให้กับวัวชน ต้องเป็นหญ้าสดๆ จะทำให้วัวชนมีสุขภาพแข็งแรง มีพลังงานที่สูง
"ถ้าเราเลี้ยงวัวชน จำนวน 5 ตัว ต้องมีแปลงหญ้า สักประมาณ 5 ไร่ และการปลูกหญ้า จะไม่ซ้ำกัน หญ้าวัวมีหลายชนิด เช่น หญ้าเนเปีย" เจ้าของบอก
วิธีการฝึกวัวหรือเรียกกันว่า "ซ้อมวัวชน" ซ้อมประมาณ 20-25 วัน ต่อเดือน ก่อนเข้าสู่สนามชนวัว ที่มีอยู่หลายสิบสนามในพื้นที่ภาคใต้ การซ้อมนั้นมีการพันเขา ซ้อมครั้งแรก 15 นาที แล้ววันถัดไปประมาณ 20-25 นาที
ตอนเช้าๆ ก็จูงให้เดินวันละ 10 กิโลเมตร แล้วพอตกตอนบ่ายๆ นำวัวออกมาตากแดด ตากจนให้ลิ้นห้อย แล้วเว้นไว้สักพัก คือเอาเข้าไปพักผ่อนที่ร่มประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วพอตกบ่ายสายๆ ก็เอาวัวไปอาบน้ำ โดยอาบน้ำให้ทุกๆ วัน วัวชนบ่อยครั้งนั้นอย่าให้ถูกฝน
สำหรับสถานที่พักหลับนอนนั้น จะสร้างขนาด 4x4 เมตร ที่นอนต้องแห้ง แล้วให้อบอุ่น ถ้าให้ชั้นดี ต้องโรยด้วยทรายอ่อนๆ ก่อน และจะต้องกันยุง มิให้ยุงกัด หรือไม่ก็ทำมุ้งกางให้วัวชนก็จะดี
"ผมเลี้ยงวัวมา พูดง่ายๆ ว่ามาตั้งแต่รุ่นพ่อ และมีความผูกพันอยู่กับวัวชน รักดูแลเอ็นดูวัวไม่ต่างเหมือนกับเลี้ยงลูก เพราะทั้งวันเวลาที่เหลือแทบจะไม่ต้องไปไหนก็ว่าได้" คุณกอเส็ม ยืนยันคาสิโน
วัวชนแพ้ชนะประมาณเวลาการต่อสู้แข่งขันไม่ได้ วัวบางตัวแทงสวยแต่การต่อสู้ไม่นาน แข่งขัน 2-3 นาที ก็ชนะคู่ต่อสู้ได้แล้ว เป็นวัวใจมาก และบางตัวต่อสู้เป็นชั่วโมงก็มี
มาพูดถึงราคาวัวชน เบื้องต้นที่เพาะพันธุ์ขายลูกวัว ราคาเบื้องต้นลูกวัวชน ประมาณ 10,000 บาทต่อตัว แต่มาเลี้ยงขุนซ้อมอย่างดี ประมาณ 1 ปี ไม่นานราคาก็จะลื่นไหลเขยิบขึ้นถึง 20,000 บาท แต่บางโอกาสเข้าตาบรรดาเซียนวัวชน ตกเวลาประมาณ 10 วัน ราคาสูงขึ้นอีกระดับหนึ่งได้
วัวชน ที่ผ่านสนามแข่งขันได้รับชัยชนะเพียง 2-3 ครั้ง ราคาก็ทะยานขึ้นชนเพดานไปอยู่ในระดับ 100,000 บาท ก็มี
โดยปกติวัวชน ราคาธรรมดาปกติ เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 10,000-15,000 บาท แล้วเอามาขุน มาฝึกซ้อม มาปั้น แล้วถ้าชนชนะมาบ้าง ราคาจะขยับในเวลา 1 ปี ตกอยู่ที่ 30,000-40,000 บาท วัวชน 1 ตัว มีกำไรตกเดือนละ 1,000 บาท ถ้าเลี้ยงสัก 5 ตัว จะมีกำไร ตกเดือนละ 5,000 บาท
"การเลี้ยงวัวชน จะเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมได้ดี วัวชนสามารถปล่อยโดยไม่มีอัตราเสี่ยงขาดทุน มีแต่กำไร ผมเองเลี้ยงคราวละ 1 ตัว ภายในครอบครัว ปลูกหญ้าไว้ข้างบ้าน หญ้าก็ขึ้นเรื่อยๆ ไว้เป็นอาหารของวัว ที่หลับนอนวัวก็บริเวณบ้าน ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย" คุณกอเส็ม บอก
และยังบอกว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้ปล่อยออกไป มีกำไรพอสมควร โดยบรรดาเซียนวัวชนจะมาดูและขอซื้อถึงที่บ้าน
เขายังบอกว่า ระหว่างวัวชนกับวัวเนื้อนั้น ราคาจะห่างกันมาก วัวชนที่ผ่านสนามการต่อสู้แข่งขันมาแล้ว ราคาตกตัวละ 80,000-100,000 บาท แต่ถ้าเป็นวัวเนื้อราคาสูงสุดก็ตกอยู่ที่ 30,000 บาท และแล้ววันหนึ่ง เมื่อวัวชนวางเสื้อถอดนวมวางมือ ก็นำมาขายเป็นวัวเนื้อได้อีก ราคาก็จะได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท
"ตลาดวัวเนื้อนั้น ท้องตลาดผู้บริโภคมีความต้องการมาก มีเท่าไหร่ก็จะมีคนมาเดินซื้อถึงบ้านหมด มีวัว จะขายออกวันไหนก็ได้" คุณกอเส็ม ยืนยันคาสิโน
วัวชน เป็นกีฬาพื้นบ้านของชาวใต้ และปัจจุบันนี้ สนามวัวชนก็ยังคงยืนอยู่คู่กับวัวชน ไม่ล่มสลาย และสนามยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เช่น สนามพื้นที่จังหวัดสงขลา สตูล พัทลุง นครศรีธรรมราช และตรัง
"การชนวัว" เป็นกีฬาประเภทหนึ่งของชาวภาคใต้ที่นิยมกันมาก มีการพนันขันต่อได้เสียกันเป็นหมื่นเป็นแสน วัวชนมีทั้งผิดและชอบด้วยกฏหมาย ถ้าปฏิบัติถูกต้องก็เป็นการชอบด้วยกฏหมายเหมือนกับกีฬาอื่นๆ เช่น กีฬาชนไก่และกัดปลา อันเป็นกีฬาที่มีความนิยมรองลงมา

กีฬาวัวชนเริ่มมีในสมัยใดมีความเป็นมาอย่างไร และทำไมจึงนิยมกันมากในภาคใต้ไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัด แต่บางท่านให้ความเห็นว่าไทยภาคใต้น่าจะได้มาจากโปรตุเกส คือ พระเจ้าเจ้าเอมมานูลเอลแห่งโปรตุเกสแต่งทูตเข้ามาเจริญทางพระราชไมตรีใน พ.ศ. 2061 ซึ่งตรงกับสมัยพระรามาธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา นครศรีธรรมราช ปัตตานี และเมืองมะริด ชาวโปรตุเกสได้เข้ามาเผยแพร่ขนบธรรมเนียมหลายอย่าง เช่น การติดตลาดนัด การทำเครื่องถม และการชนวัวรวมอยู่ด้วย
คาสิโน

วัวที่จะใช้ชนนั้นจะต้องเป็นพันธุ์วัวชนโดยเฉพาะ วัวใช้งานธรรมดาจะนำมาเป็นวัวชนไม่ได้ ลักษณะของวัวชนที่ดีจะต้องมีใจทรหดอดทน มีไหวพริบในการชนดี และมีลักษณะอื่นๆ ที่ดีอีกหลายอย่าง เท่าที่มีผู้กล่าวไว้ถ้าประมวลมากล่าวเฉพาะที่สำคัญก็จะได้ดังนี้
1. ลักษณะทั่วๆ ไป จะต้องมีรูปร่างประเปรียว ช่วงตัวยาว ท้องกิ่ว ลำตัวค่อนข้างหนา หลังหนาแบน คอสั้นหนาใหญ่ ช่วงขาสั้นและล่ำสัน คิ้วหนา ตาเล็ก สีตาดำ ใบหูเล็ก โหนกสูงใหญ่ (ภาคใต้เรียกว่าหนอก) มีขวัญที่ใต้โหนกและกลางหลังเยื้องไปทางด้านหน้าเหนียงคอ (ภาษาใต้เรียกว่าแร้ง) หย่อนยาน ลางตัวหย่อนยานมากเวลาก้มลงกินหญ้าจะจดพื้นดินก็มี แต่ลางพันธุ์ นิยมเหนียงคอสั้น เขาแข็งแรง ปลายเขาแหลมโค้ง โคนเขาทั้งสองใหญ่หางเรียวยาวจดพื้นดิน โคนหางใหญ่ปลายหางเป็นพู่ดูสวยงามมาก ลูกอัณฑะเล็ก ขนสั้นละเอียดเป็นมัน แต่ที่หน้ามีขนยาว เวลาเคี้ยวเอื้องน้ำลายเป็นฟอง และกีบตีนชิด เป็นต้น
2. ลักษณะเฉพาะพันธุ์ ลักษณะเฉพาะพันธุ์ ที่นำมากล่าวนี้เป็นลักษณะที่เชื่อกันว่าเป็นวัวชนชนิดดี ซึ่งจะเลือกกล่าวเพียงบางชนิดเท่านั้น
โคอุสุภราช โคชนิดนี้นิยมเลี้ยงไว้ชน จัดว่าเป็นพระยาโคก็ได้ มีลักษณะที่สังเกตคือสีขาวปลอด หรือบางตำรากล่าวว่าชาติโคอุสุภราชนั้นสีแดงลายขาว โดยมีลายดังนี้คือ ตีนด่าง, หางดอก, หนอกพาดผ้า, หน้าใบโพ
โคนิล โคชนิดนี้ถือเป็นโคพันธุ์ดีอีกชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าจะให้ลาภแก่ผู้เลี้ยง ลักษณะพิเศษคือมีเยี่ยวดำในวันพระ แต่ในวันอื่นๆ อาจจะไม่ดำ ส่วนสีของเท้าอาจจะดำหรือไม่ใช่ก็ได้
โคบิณฑ์น้ำข้าว เป็นโคสีขาวปลอด ลักษณะที่น่าสังเกตคือ เล็บยาว หางยาว เขาขาวเป็นมัน
3. ลักษณะดีตามสีตัว วัวทางภาคใต้มีสีต่างกันถึง 7 สี แต่สีที่สำคัญคือ ขาวปลอด, ดำนิล, แดง , ลาย (คือดำแซมขาว), ลังสาด (คือคอดำ หัวดำ ท้ายดำ ตรงกลางขาว)
สีของวัวนี้ นอกจากจะบอกลักษณะดีชั่ว แล้วยังใช้เป็นชื่อเรียกวัวอีกด้วย เช่นวัวสีขาวเรียกอ้ายขาว สีดำเรียกอ้ายดำ เป็นต้น แต่เพื่อมิให้สับสนเพราะมีสีซ้ำกันเขาจึงบอกชื่อบ้านหรือชื่อเจ้าของเข้าไปด้วย เช่นอ้ายขาวลุง หมายถึงวัวขาวบ้านทุ่งลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วภาคใต้ เพราะตลอดชีวิตการต่อสู้ของมันไม่เคยแพ้ มีแต่ชนะกับเสมอ และถือกันว่าเป็นโคพันธุ์อุสุภราชแท้
ลักษณะตามสีที่นิยมกันว่าเป็นวัวดีนั้นคือ
1. โหนดชาติใหญ่ คือโหนดหัวแดง
2. โหนดตีนขาว ซึ่งเรียกว่าลังสาดชนิดหนึ่งนั้น ถือว่ามีใจทรหดมาก
3. แดง คอกิ่ว หางตัด เขาลอม คือวัวสีแดง เหนียงคอสั้น หางสั้น นับว่าเป็นลักษณะพิเศษ
4. ตีนด่าง หางดอก หนอกพาดผ้า หน้าใบโพ คือวัวที่มีสีทั่วไปดำ ตีนดำแซมขาว หางดำแซมขาว โหนกขาวเหมือนเอาผ้าขาวพาดไว้และที่หน้ามีสีขาวเป็นรูปใบโพ ยอดใบโพขึ้น ถ้ายอดลงถือว่าลงไม่ดี วัวชนิดนี้ถือว่าจะนำโชคลาภและให้มงคล ใครเลี้ยงวัวพันธุ์นี้ไว้ประจำบ้านจะไม่มีภัยพิบัติ โจรผู้ร้ายไม่มารบกวน แต่ท่านห้ามฆ่าเพราะจะนำความพินาศฉิบหายอย่างใหญ่หลวงมาสู่บ้าน จะเลี้ยงไว้ชนก็ได้ดี เพราะมีน้ำอดน้ำทนมาก
ลักษณะตามสีที่ถือว่าไม่ดีคือ
1. สีลันดา ได้แก่สีตัวแดง จมูกลาย ท่านถือว่าไม่รับเดิมพัน คือถ้าจะชนเอาเดิมพันกันแล้วต้องแพ้เขา แต่ถ้าชนกันตามธรรมดาไม่มีเดิมพันกลับชนได้ดีไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ เหมือนกัน ฉะนั้นท่านจึงกล่าวไว้ว่า "วัวลันดา ปลาโดงแดง อย่าแทงมาก" คืออย่าพนันให้มากนัก เพราะไว้ใจไม่ได้ กำลังได้เปรียบแท้ๆ อาจยอมแพ้เสียเฉยๆ ก็ได้ แต่ถ้าเป็นวัวลันดาหางดอกที่ภาษาปักษ์ใต้เรียกว่า "หางผ้าร้ายห่อทอง" (ผ้าขี้ริ้วห่อทอง) ก็กลับเป็นลักษณะดีไป
2. ดำหน้าโพ คือวัวดำแต่มีสีขาวเป็นรูปใบโพที่หน้า ท่านว่าใจเสาะไม่อดทนมักยอมแพ้เอาง่ายๆ นอกจากจะมีตีนด่าง หางดอก โหนกพาดผ้าด้วยเท่านั้นจึงจะดี
ว่าถึงลักษณะไม่ดีแล้วใคร่จะกล่าวถึงขวัญและสิ่งไม่ดีอีกบางอย่าง จะขอกล่าวเฉพาะถึงขวัญที่ควรระวังไว้อย่างเดียว คือขวัญกระหนาบที่ลึงค์ ท่านถือว่าดุมาก เลี้ยงไม่เชื่องแม้แต่เจ้าของ ถ้ามันโกรธขึ้นมาก็จะขวิดถึงตายได้ ท่านจึงห้ามเลี้ยง


เท่าที่ทราบมีอยู่มากคือที่ อำเภอเมือง อำเภอท่าศาลา อำเภอหัวไทร อำเภอทุ่งสง อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอฉวาง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนที่อื่นๆ ได้แก่ อำเภอควนขนุน อำเภอเขาไชยสน อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง อำเภอย่านตาขาว อำเภอห้วยยอด ตำบลนาวง ตำบลนาโยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง อำเภอสทิงพระ ตำบลม่วงงาม ตำบลหนองหอย ตำบลป่าขาด อำเภอนาทวี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นต้น


เนื่องจากวัวชนนำเงินนำทองให้เจ้าของปีละมากๆ จึงต้องเลี้ยงดูกันอย่างดี มีหญ้าน้ำให้กินอย่างอุดมสมบูรณ์ อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณวันละ 2 หน ต้องฝึกหัดกำลังให้วิ่งทุกๆ เช้าเย็น และใช้ไม้ตีที่คอทุกวันเพื่อให้มีกล้ามเนื้อขึ้นทำให้คอแข็งแรงและให้ฝึกชนกับวัวอื่นๆ บ้าง แต่ไม่ถึงกับให้แพ้ชนะกันเช่นเดียวกับซ้อมมวย ผู้เลี้ยงจะต้องคอยดูแลอย่างดี มิให้ใครเข้าใกล้โดยเฉพาะคนฝ่ายตรงกันข้าม กลางคืนถ้ามียุงชุมจะให้นอนในมุ้งอย่างดี เรียกว่าให้อยู่ดีกินดีเหมือนหรือยิ่งกว่าปฏิบัติกับลูกเมียหรือพ่อแม่ของเขาทีเดียว ยิ่งใกล้วันชนด้วยแล้วก็ยิ่งเลี้ยงดูแลพิทักษ์รักษาอย่างดีพิเศษขึ้นไปอีก เพราะอาจถูกฝ่ายตรงกันข้ามลอบวางยาหรือทำอาถรรพ์อย่างหนึ่งอย่างใดให้พ่ายแพ้ได้

คาสิโน
ก่อนจะชนจะมีการเปรียบวัว คือนำวัวไปที่สนามวัวหรือที่ใดที่หนึ่งซึ่งกำหนดนัดหมาย เพื่อเปรียบดูวัวที่จะชนกันเหมือนกับการเปรียบมวย คือนำวัวไปยืนใกล้ๆ กัน เพื่อดูให้แน่ว่าตัวไหนมีส่วนได้เปรียบเสียเปรียบกันตรงไหน ถ้าเห็นว่าต่างก็ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันเท่าไรจึงตกลงชนกันได้ หรือของใครมีดีพิเศษถึงจะเสียเปรียบในรูปร่างส่วนสัดกันบ้างเขาก็ยอม


เมื่อเปรียบวัวกันจนเป็นที่ตกลงกันแล้วว่าจะชนกันได้ก็จะวางเงินเดมิพันกันไว้ มากน้อยแล้วแต่ตกลงกันว่า ถ้าฝ่ายใดไม่นำวัวของตนมาชนตามวันที่กำหนด จะต้องเสียค่าปรับครึ่งหนึ่งหรือทั้งหมดให้แก่ทางสนามและต้องมัดจำไว้ 30 เปอร์เซ็นต์ และแล้วก็จะกำหนดวันชน ซึ่งโดยทั่วทางสนามจะจัดรายการเอง วัวชนนี้เขามักกำหนดกันแน่นอนเหมือนการชกมวย และโดยมากมักกำหนดชนในวันอาทิตย์อาจจะทุกวันอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง วัวที่เปรียบกันได้คู่แล้วจะจัดเข้ารายการไม่เร็วกว่า 2-3 สัปดาห์ หลังจากได้เปรียบวัว ทั้งนี้เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวนั่นเอง


ก่อนวันชนหนึ่งหรือสองวัน เขาจะเก็ยวัวไว้แต่เฉพาะในโรงวัวซึ่งสร้างขึ้นอย่างพิเศษสำหรับวัวตัวนั้นเท่านั้น วัวชนจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นพิเศษ โดยเขาจะนำหญ้าและน้ำมาให้กินในโรงวัวนั้นเลย บางรายให้กินไข่ไก่ถึงวันละ 10-15 ฟองก็มี หรือไม่ก็จะพาออกวิ่งบ้างเดินบ้างในตอนเช้ามืดหรือในตอนเย็น เป็นการออกกำลังกาย และมีคนเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด ตลอดเวลาทั้งกลางคืนกลางวัน มีหมอวัวเสกหญ้าและน้ำให้กินเพื่อให้มีกำลังและช่วยขจัดปัดเป่าการกระทำคุณไสย มีการประพรมน้ำมนต์น้ำพร หมอบางคนจะมีกรวยทำด้วยใบตองหรือปลอกเขาซึ่งทำด้วยทองเหลืองหรือไม้ไผ่สวมเขาทั้งสองไว้ มีผ้ายันต์ ผ้าประเจียดผูกคอวัว ซึ่งจะถอดออกเมื่อจะปล่อยให้วัวชนกัน ในขณะที่อยู่ในพิธีนี้วัวดีบางตัวจะให้ฝันแก่เจ้าของตัวจะแพ้หรือจะชนะ
ในวันชน เมื่อใกล้ถึงเวลาคือประมาณ 1-2 ชั่วโมง เจ้าของวัวจะนำวัวมาในห้องพักวัว (แต่ปัจจุบันนี้มักไม่ค่อยจะมีห้องพักวัวแล้วแต่นำออกจากโรงวัวเข้าไปในสนามเมื่อถึงเวลา สมัยก่อนมีการแห่แหนวัวออกจากโรงวัวโดยมีคนถือฆ้องเดินตีนำหน้าและจะคลุมวัวด้วยผ้าสี ดูแล้วเป็นที่เกรงขาม) ขณะที่นำวัวเข้าสนามนั้นจะมีพิธีทางไสยศาสตร์คือมีหมอวัวถือหม้อดินน้ำมนต์เดินประพรมน้ำมนต์นำหน้า เจ้าของวัวจูงวัวตามหมอ พี่เลี้ยงหรือคนเลี้ยงวัวถือหญ้าน้ำซึ่งปลุกเสกแล้วเดินตามหลังวัวไป และต้องออกตามฤกษ์ยามดีมีชัยด้วย


สนามชนวัวมักจัดทำไว้ถาวรเหมือนสนามมวย มีรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือเป็นวงกลม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเนื้อที่ด้วย อย่างไรก็ดีเนื้อที่ของสนามชนวัวมักมี 2-3 ไร่


เมื่อถึงเวลาชนหมอจะประพรมน้ำมนต์วัวแล้วเดินนำหน้า มีคน 2 คนจูงวัวตามหลัง ที่ต้องจูงสองคนเพราะจับปลายเชือกคนละข้าง เชือกนั้นยาวประมาณ 1 เมตร สอดเข้าไปในห่วงหวายที่ร้อยจมูกวัวไว้ (ห่วงหวายที่ว่านี้ชาวภาคใต้เรียกว่า "เทียนพราง" ) พอถึงกลางสนามคนหนึ่งจะปล่อยก่อน อีกคนหนึ่งจะดึงเชือกนั้นให้หลุดจากห่วงหวาย เวลาจะปล่อยเชือกนี้จะตีกลองสัญญาณ 2 ครั้งเพื่อได้ปล่อยวัวพร้อมกัน วัวทั้งสองจะได้เข้าชนกัน


วัวบางคู่กว่าจะแพ้ชนะกันอาจจะใช้เวลาเป็นชั่วโมง ทั้งนี้เพราะต่างตัวต่างฉลาด บางตัวมีวิธีการต่อสู้โดยแทงด้วยเขา บางตัวแทงแล้วบิด บางตัวขัดเขาแล้วงัด บางตัวเอาเขาเข้าฟัน บางทีดันเข้าข้างตัวของคู่ต่อสู้ ซึ่งชาวภาคใต้เรียกว่า "เอาเพลียง" หรือ "พาเพลียง" บางตัวขึ้นทับหรือขึ้นขี่ ชาวภาคใต้เรียกว่า "ขึ้นเหง" เป็นการตัดกำลังให้คู่ต่อสู้เหนื่อย อย่างไรก็ดีในการตัดสินแพ้ชนะมีกติกาของสนามไว้ดังนี้
1. ก่อนจะชนถ้าพิสูจน์ได้ว่าฝ่ายใดถูกยาหรือถูกกระทำ กรรมการอาจไม่ให้ชนและริบเงิน เพื่อรักษาชื่อเสียงของสนามและเพื่อไม่ให้สัตว์ทรมาน 2. ห้ามมิให้ทาน้ำมันหรือเมือกทุกชนิด ส่วนจะสวมเครื่องรางของขลังให้วัวก็แล้วแต่จะตกลงกันในวันทำสัญญา 3. เมื่อตีกลอง 2 ครั้งให้พาวัวเข้าชน โดยมีคนพาเข้าชน 2 คน 4. ให้พาวัวเข้าไปชนในลักษณะหน้ากระดานเขาหากัน จะแกล้งชักเชือกหรือตีวัวให้ตกใจไม่ได้ 5. ห้ามตีวัวฝ่ายตรงข้าม แต่วัวฝ่ายตัวเองให้ตีได้ 6. วัวที่ล้ม ถ้าไม่ลุกภายใน 5 นาทีถือว่าแพ้ ถ้าลุกก่อนให้ชนต่อไปได้ ถ้าลุกแล้วหนี กรรมการจะให้เวลา 5 นาที ถ้าไม่ชนถือว่าแพ้เด็ดขาด 7. ถ้าเขาคีบกันไม่หลุดภายใน 1 ชั่วโมงถือว่าเสมอ 8. ถ้าชนกันรั้วพัง วัวออกไปชนนอกรั้ว ทางสนามจะตีกลองให้นำวัวมาชนข้างใน วัวใครไม่เข้ามาถือว่าแพ้ 9. ขณะชนกัน ถ้าตัวใดกระโดดหนีออกนอกรั้วถือว่าแพ้เด็ดขาด ถ้าตัวชนะกระโดตามไปนอกรั้วต้องนำมาชนใหม่ภายใน 10 นาที ถ้านำเข้ามาไม่ได้ทั้งสองตัว ถือว่าเสมอกัน 10. ถ้าวัวร้างลากันไป โดยไม่แสดงว่าตัวไหนแพ้ชนะ ให้กรรมการตีกลอง 2 ที เพื่อให้ชนกันใหม่ 11. วัวชนคู่ใดเกิดมีปัญหาด้วยประการใดก็ดี นอกเหนือไปจากกติกาของสนามหรือไม่ชัดเจนก็ดี ให้กรรมการปรึกษากัน 3 นาย ถือเสียงข้างมากเป็นการตัดสินเด็ดขาด 12. ผู้เล่นในสนามจะต้องยินยอมตามคำตัดสินของกรรมการ จะอุทธรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งมิได้ 13. เงินเดิมพันกรรมการจะถือไว้ ค่อยจ่ายให้แก่ผู้ชนะและแบ่งคืนให้แก่ผู้เสมอกัน ใครจะคัดค้านไม่ได้ 14. กรรมการหรือนายสนามชนวัวมีอำนาจรักษาความสงบเรียบร้อยในสนามและมีอำนาจห้ามผู้ที่มีความประพฤติไม่เรียบร้อยเข้าสนามได้มีกำหนดคาสิโน 3 เดือน
กีฬาชนวัวในภาคใต้ โดยเฉพาะที่นครศรีธรรมราชกำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ในวันที่วัวชนชาวบ้านชาวบ้านชาวเมืองแทบทุกอาชีพจะแห่กันไปดูการชนอย่างหนาแน่นและการชนวัวในบางคราวมีติดต่อกันเป็นแรมเดือน จึงเป็นเรื่องที่น่าวิตกอย่างยิ่ง เพราะว่าการพนันย่อมมีทั้งผู้ได้และผู้เสีย ด้วยเหตุนี้ถ้าหากไม่มีขอบเขตจำกัดเสียบ้าง ผลเสียในหลายๆ ด้านย่อมจะบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะไม่เคยมีที่ใดพอเป็นประจักษ์พยานได้ว่าการพนันนำมาซึ่งความสงบสุขและความรุ่งเรือง

บ่อนไก่ชน


บ่อนไก่ในประเทศไทยที่ถูกกฎหมายจะมีอยู่จำนวนเท่าใดผมไม่รู้ แต่รู้ว่าการจะเปิดบ่อนแห่งใหม่นั้น เป็นเรื่องยากพอ ๆ กับกลิ้งหินขึ้นภูเขา เพราะลงไม่ซูฮกกับตำรวจใหญ่ในท้องที่ ไม่เป็นขาใหญ่มีไมตรีกับโปลิศระดับเป้งๆคาสิโน ต่อให้คุยดีกับเจ้าหน้าที่ยังไงก็ไม่ได้ใบอนุญาตอยู่ดี เผลอ ๆ อาจถูกทุ่มด้วยหม้อสุกี้อีกต่างหาก
ยิ่งกลุ่มเอ็นจีโอผู้ชอบบริโภคเนื้อไก่ โดยอนุญาตให้คนฆ่าไก่ประกอบอาหารมาให้กินได้ แต่ต่อต้านไม่ยอมใคร เพาะทนไม่ได้ที่เห็นไก่จิกตีกันว่าเป็นการทรมานสัตว์ที่แย่สุดขั้ว ยิ่งเป็นเงื่อนไขทำให้การขออนุญาตเปิดบ่อนไก่ลำบากขึ้น เว้นแต่จะใช้กระดาษที่ชำระหนี้ได้มาง้างเหล็กเป็นใบเบิกทาง

แล้วจู่ๆ พรรคภูมิใจไทยก็ซุ่มเงียบแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยถึงหลายฉบับแบบ "เข็มขัดสั้น" เพื่อให้การออกใบอนุญาตเปิดบ่อนไก่และเปิดบ่อนกัดปลาง่ายขึ้น จนนักเลงชนไก่ได้เฮฮา นักเลงกัดปลาได้โห่ฮิ้วคาสิโน
ที่ว่าง่ายขึ้นตรงที่การขออนุญาตตั้งบ่อนไก่ชนเพื่อการพนันและตั้งบ่อนกัดปลาเพื่อการขันต่อ จากนี้ไปเป็นเรื่องของมหาดไทยล้วน ๆ ตำรวจไม่เกี่ยว

แล้วอะไรที่ขึ้นกับมหาดไทย ก็ย่อมเจรจาง่ายกว่าพูดกับตำรวจ แม้จะใช้ภาษาไทยเหมือนกัน แต่สื่อความหมายได้ต่างกันลิบลับ

ฟันธงได้เลยว่า จากนี้ไปบ่อนไก่และบ่อนปลาในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างหนาตายิ่งกว่ามาเก๊าที่มีทั้งบ่อนนก บ่อนจิ้งหรีด บ่อนหมา และบ่อนกาสิโน

ถาม ถ้าบ่อนไก่ บ่อนปลา เพิ่มขึ้นอย่างมากมายในบ้านเรา แถมยังอนุญาตให้เล่นการพนันมากวันกว่าเดิม จะเป็นผลดีหรือผลร้ายต่อบ้านเมือง?คาสิโน
ตอบ มีทั้งผลร้ายและผลดี
ผลร้าย เมืองไทยจะมีผีตีไก่และปีศาจกัดปลาเพิ่มจำนวนมากมาย ถ้าซอมบี้ผีพนันเหล่านี้เล่นจนตูดปะ ย่อมมีสิทธิ์ก่ออาชญากรรมและถ้าควบคุมไม่ดีอาจมีเยาวชนเข้าไปมั่วสุมในบ่อนด้วย
วิธีป้องกัน ต้องมีกติกาให้เจ้าของบ่อนจัดทำฐานข้อมูลลูกค้า เป็นใครอยู่ที่ไหน อาชีพอะไร เล่นได้เสียอย่างไร เวลาเกิดคดีจะได้เป็นแนวทางให้ตำรวจใช้สืบสวนแกะรอยคนร้ายได้ถูก ส่วนเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี ห้ามมีตัวตัวอยู่ในบ่อนอย่างเด็ดขาด
ผลดี มีหลาประการด้วยกัน คือ
1.ไก่นักมวยของไทยจะได้รับการพัฒนามาเป็นสายพันธุ์พิเศษของโลก ขณะนี้ราคาตัวละเป็นแสนยังไม่พอ จะต้องถ่อให้มีราคาตัวละเป็นล้าน
2.เป็นการเพิ่มอาชีพใหม่ให้แก่คนไทย คนรักไก่จริงจะได้เพาะไก่ชกมวยออกขายได้ทั่วโลก
3.การท่องเที่ยวที่เคยกระจุก ก็จะกระจายไปทั่ว เจ้าของบ่อนไก่ บ่อนปลา อาจพัฒนาบ่อนเป็นรีสอร์ท เป็นสปา เป็นเวทีชิงแชมป์ของสัตยว์ป่าสัตว์เลี้ยงนานาชนิด
ฟันธง การจุดประกายเปิดทางให้มีการขอใบอนุญาตเปิดบ่อนไก่ บ่อนปลา อย่างง่ายดายครั้งนี้ น่าจะเป็นการเปิดประตูให้กาสิโนสก้าวเท้าเข้ามาสู่ประเทศไทยในไม่ช้า
สงสารก็แต่ผู้คลั่งศาสนาทั้งหลาย วันนี้หัวใจไม่แหลกสลายไปบ้างแล้วหรือ ? คาสิโน
ปล.ไม่สนับสนุนให้มีการเล่นพนันนะครับ

ปิดบ่อนไก่ชน"แอ๊ด บาว"


"แอ๊ด บาว" โวยโดนปิดบ่อนไก่ชน จี้รัฐเรื่องวัคซีนอย่าดีแต่พูด
สมาคมไก่ชนโวยโดนสั่งปิดบ่อน ยันไก่ชนไม่ใช่แหล่งแพร่เชื้อไข้หวัดนก ติงรัฐบาลกำลังทำลายอาชีพชาวบ้านรากหญ้า เสนอตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในการควบคุมหวัดนกล้มเหลว “แอ๊ด”ระบุวัคซีนหวัดนกในไก่ชนไม่คืบเป็นเพียงแค่ลมปากนายกฯ ฝ่ายปฏิบัติยังไม่ดำเนินการอะไรเลย พร้อมตั้งข้อสงสัยก่อนเลือกตั้งไม่ประกาศสั่งปิด
ในการแถลงข่าวเรื่อง “การใช้วัคซันป้องกันโรคไข้หวัดนกในไก่ชนและมาตรการของรัฐในการสั่งปิดสนามชนไก่” โดย นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ อุปนายกสมาคมสงเสริมอาชีพไก่ชนไทย เปิดเผยว่า จากที่มีข่าวออกมาว่าจะมีการสั่งปิดสนามชนไก่โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคไข้หวัดนกนั้น ขอชี้แจงว่า ที่มาที่ไปของค่ำสั่งนี้มาจากการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไข้หวัดนกที่ล้มเหลวของรัฐบาล เนื่องจากยังมีการระบาดอยู่ทั่วไปโดยที่นโยบายของภาครัฐไม่สามารถควบคุมได้ แต่การที่รัฐออกมาแถลงว่าสาเหตุที่โรคไข้หวัดนกยังมีการแพร่กระจายอยู่เพราะยังมีการอุ้มไก่ชนไปชนกัน โดยอ้างข้อมูลว่าตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกในไก่ชนเป็นระยะๆ นั้นคาสิโน
ตนขอยืนยันว่าตั้งแต่มีการหาเชื้อไข้หวัดนกในไก่ชนไม่เคยมีการตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกในสนามชนไก่เลย เพราะชาวบ้านดูแลไก่ชนอย่างดีตามภูมิปัญญาที่ได้สั่งสมมา ขณะเดียวกันก็ไม่เคยมีการแพร่เชื้อไข้หวัดนกจากไก่ชนไปยังสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ ด้วย นอกจากนั้นประชาชนที่คลุกคลีอยู่กับไก่ ก็ไม่เคยมีรายงานว่าติดเชื้อจากไก่แม้แต่น้อย ดังนั้นตรรกะที่บอกว่า ไข้หวัดนกยังไม่จบเพราะมีสนามชนไก่ จึงไม่ถูกต้อง แต่เป็นการทึกทักเอาเอง โดยเอาไก่ชนเป็นแพะ
อุปนายกสมาคมสงเสริมอาชีพไก่ชนไทย กล่าวต่อว่า หากเป็นเช่นนี้ เมื่อรัฐสั่งให้หยุดการชนไก่โดยสั่งปิดสนามนั้น รัฐบาลเคยรู้หรือไม่ว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนในระดับรากหญ้าที่เลี้ยงไก่ชนเป็นอาชีพ กว่า 7 ล้านคน รัฐบาลไม่คิดว่านี่คืออาชีพเหมือนที่ฟาร์มไก่และบริษัทส่งออกไก่ทำกันรัฐบาลจึงไม่สนใจ
ดังนั้นในวันนี้สมาคมจึงมีมติ 3 ประการด้วยกัน 1. ขอยืนยันว่าการชนไก่ไม่ได้เป็นแหล่งหรือสาเหตุสำคัญของการแพร่เชื้อไข้หวัดนก 2. กีฬาชนไก่เป็นอาชีพที่ประชาชนกว่า 7 ล้านคน นิยมเล่นกันเป็นสันทนาการและหาเลี้ยงชีพเท่ากับรัฐบาลกำลังทำลายอาชีพของประชาชน 3. ขอเรียกร้องว่าขอให้สังคมตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติการควบคุมไข้หวัดนกมาเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ล้มเหลวมาตลอดไม่สามารถควบคุมได้ ท้ายที่สุดก็ใช้ไก่ชนมาเป็นแพะ
นายสัตวแพทย์ชัย ยังกล่าวถึงการมีมติให้ใช้วัคซีนในไก่ชนด้วยว่า จนถึงขณะนี้ล่วงเลยมา 3 สัปดาห์ แต่ความกระตือรือร้นของข้าราชการไทยยังไม่มี ที่เคยมีการแถลงว่าจะเตรียมการใช้วัคซีนในไก่ ท่าทีเหมือนเป็นการดื้อแพ่งคาสิโน
ต่อมติครม.ตนขอเรียกร้องให้ดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็ว
ด้าน นายปรารถนา งามวงศ์วาน นายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมืองไทย กล่าวว่า ในภาคใต้ซึ่งยังมีสนามชนไก่และที่ผ่านมาไม่เคยหยุดกิจกรรมการชนไก่เลย กลับไม่มีรายงานการอุบัติของโรคไข้หวัดนกในภาคใต้เลยแม้แต่น้อย มีแต่การายงานในภาคเหนือ อีสานและกลางเท่านั้น ข้อมูลนี้แสดงว่าไก่ชนไม่ได้เป็นสาเหตุของการแพร่กระจายไข้หวัดนก ในเรื่องการสั่งปิดสนามชนไก่ ถ้ามองในมุมกลับจะเกิดบ่อนวิ่ง บ่อนป่า และบ่อนเถื่อนจำนวนมากก็เท่ากับควบคุมยากเข้าไปอีก ในส่วนของการมีมติให้ใช้วัคซีนหวัดนกในไก่ชนผู้รับผิดชอบก็ยังไม่ดำเนินการอย่างไร อยากถามว่า “จะปล่อยให้เป็นแบบนี้อีกนานไหม”
ขณะที่นายยืนยง โอภากุล หรือ “แอ็ด” คาราบาว นายกสมาคมส่งเสริมอาชีพไก่ชนไทย ระบุว่า ตั้งแต่ พ.ศ. 2525 นายสิทธิ์ จิระโรจน์ รมต.มหาดไทยออกกฎกระทรวงไม่ให้มีการออกใบอนุญาตชนไก่ขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่นั้นมาสนามชนไก่ก็ลดลงและบ่อนเถื่อนก็เพิ่มมากขึ้น จนถึงรัฐบาลทักษิณ 1 ที่มองการณ์ไกล เห็นว่ากีฬาชนไก่เป็นกีฬาท้องถิ่นที่จะส่งเสริมอาชีพชาวบ้านได้ จึงได้สั่งการให้มีการแก้กฎกระทรวงและให้อำนาจผู้ว่าฯ ซีอีโอเป็นผู้อนุมัติสนามชนไก่ได้ แต่มีช่องโหว่คือไม่มีกรอบและบรรทัดฐานในการอนุมัติ ทุกอยางขึ้นอยู่กับผู้ว่าเพียงคนเดียว จึงอยากให้มีกรอบเป็นแบบแผนเดียวกันทั่วทั้งประเทศ
อีกทั้งขณะนี้หลังจากมีคำสั่งให้ปิดสนามชนไก่ก็จะมีผลกระทบต่อประชาชนมหาศาล แต่เราไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน ซึ่งจากการร้องเรียนเข้ามาพบว่าชาวบ้านเดือนร้อนกันมาก บางจังหวัด ผู้ว่าฯ ไม่เข้าใจแต่อยากสนองนโยบายรัฐก็สั่งปิดสนามชนไก่ จนชาวบ้านที่เลี้ยงเป็นอาชีพอยู่ไม่ได้ ยิ่งมีปัญหาเรื่องภัยแล้งยิ่งเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรเข้าไปอีก ขอเรียนว่าไม่มีใครเอาไก่ที่เป็นโรคชนในสนานอย่างแน่นอน เจ้าของต้องดูแลอย่างดี
สิ่งที่น่าสงสัยคือ ทำไมไม่ประกาศนโยบายนี้ก่อนการเลือกตั้ง ถ้าปิดบ่อนไก่ชาวบ้านจะอยู่กันอย่างไร ต้องดูที่วิถีชีวิตของประชาชนรากหญ้าด้วย ส่วนเรื่องวัคซีนก็เหมือนสั่งปากเปล่าแต่ไม่ดำเนินการอะไรเลย ฝากตรงนี้ถึงรัฐบาลให้เร่งดำเนินการโดยเร็วด้วย เพราะประชาชนเดือนร้อนกันไปทั่วแล้ว
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพนันชนไก่และกัดปลา พ.ศ.2552 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2552 เป็นต้นไป ออกมาได้จังหวะเวลาต้อนรับหน้าตีไก่พอดี

การพนัน หรือ กีฬาตีไก่ ตีกันทั้งปี แต่ในช่วงหลังสงกรานต์ไปจนถึงออกพรรษา จะไม่ค่อยมี อาจจะเป็นเพราะเข้าหน้าฝน ไก่จะติดหวัดง่าย เลยถือเป็นช่วงพักแข้ง ประคบประหงม ออกกำลังยืดเส้นยืดสาย อยู่แต่ในซุ้ม รอฤดูกาลใหม่ หลังออกพรรษา หมดฝนแล้ว

กระทรวงมหาดไทยห้ามเปิดบ่อนไก่มาเกือบ 30 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยพลเอกสิทธิ จิรโรจน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะปู่สิทธิไม่ชอบอบายมุขและจำกัดให้ตีไก่ได้เฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีความพยายามจากผู้ที่ชอบตีไก่ที่จะผลักดันให้มีการแก้ไขให้มีการเปิดบ่อนไก่ แต่ก็ไม่เป็นผล มาสำเร็จเอาในยุคที่พรรคภูมิใจไทยครองอำนาจในกระทรวงมหาดไทย
คาสิโน
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ ซึ่งลงนามโดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม อนุญาตให้เปิดบ่อนไก่ได้โดยเสรีทั่วประเทศ ใครที่มีอายุ 35 ปี สัญชาติไทย ไม่เคยล้มละลาย ไม่เคยติดคุก ถ้าติดแต่พ้นโทษมาแล้วเกิน 2 ปี ก็เปิดได้ โดยขออนุญาตกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในต่างจังหวัด ถ้าในกรุงเทพเป็นอำนาจของอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

สาระสำคัญอีกข้อหนึ่งคือ เพิ่มวันชนไก่ จากเดิมที่ให้เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ ก็เพิ่มเป็นทุกเสาร์อาทิตย์ หรือเดือนละ 8 วัน แต่ให้มีการพนันกันได้ ไม่เกิน 5 วัน และต้องไม่ตรงกับวัน เฉลิมพระชนมพรรษา และวันสำคัญทางศาสนา

เชื่อหรือว่า เซียนพนันจะไปนั่งดูไก่ตีกันสนุกๆ โดยไม่นึกอยากจะได้เสียกัน ใน 3 วัน ที่ตีไก่ได้ แต่ห้ามพนัน

นายชวรัตน์ ไม่ชอบตีไก่ ถนัดแต่ปั่นจิ้งหรีด แต่นักการเมืองในสังกัดพรรคภูมิใจไทยหลายคน ชอบไก่ชน โดยเฉพาะนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งเป็นเจ้าของไก่ชนตัวเก่งจำนวนมาก และลือกันว่า เขาคือเจ้าของสนามชนไก่ เทิดไท ที่ลาดกระบัง ซึ่งเพิ่งจะจัดมหกรรมกีฬาไก่ชนไปเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมนี้ มีนายชวรัตน์ นายเนวิน ชิดชอบ นายยืนยง โอภากุล และนายธนินท์ เจียรวนนท์ ซึ่งชอบไก่ชนเหมือนกัน ถึงขนาดมีบ่อนของตัวเองที่อำเภอ แสนตุ้ง จังหวัดตราด ไปร่วมงานด้วย

การเปิดเสรีบ่อนไก่ชน และเพิ่มวันตีไก่ครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย น่าจะได้ประโยชน์ ทางการเมือง ที่สามารถนำไปหาเสียงได้ว่า เป็นผลงานของพรรคที่ทำให้เปิดบ่อนไก่ได้ทั่วประเทศ จังหวัดหนึ่งจะเปิดสักบ่อนก็ได้ ไม่มีข้อจำกัด

การชนไก่ แม้จะเป็นความโหดร้าย สำหรับคนจำนวนมาก แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยในต่างจังหวัด ที่ชอบเลี้ยงไก่ชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ. และผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ส่วนใหญ่จะเลี้ยงไก่ชน คนเหล่านี้คือ ฐานคะแนนเสียงท่าสำคัญในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง
คาสิโน
เลี้ยงไก่ชนแล้ว ถ้าไม่อุ้มไปตี กินเดิมพันกับไก่ของคนอื่นๆ ก็ไม่สนุก และไม่รู้ว่าจะเลี้ยงไปทำไม แต่ที่ผ่านมา บ่อนไก่ใหญ่ๆมีน้อย และเปิดเฉพาะวันอาทิตย์ ถ้าหาคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อกันไม่ได้ ก็ต้องรอไปถึงอาทิตย์หน้า เลยช่วงที่ไก่ฟิตเต็มที่พร้อมที่จะชนไปแล้ว ต้องเริ่มซ้อมกันใหม่

แต่ต่อไปนี้ ทุกจังหวัดในประเทศไทยจะมีบ่อนไก่ใหญ่ๆ บางจังหวัดอาจจะมีทุกอำเภอก็เป็นไปได้ ไม่ต้องเสียเวลาอุ้มไก่ข้ามจังหวัดไปเปรียบหาคุ่ชก และจะร่ำลือไปทั่วภาคอีสานอันเป็นสมรภูมิที่พรรคภูมิใจไทย ต้องขับเคี่ยวกับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า เพราะมีเนวิน และพรรคภูมิใจไทย เราจึงมีบ่อนไก่ในวันนี้

รายได้ของบ่อนไก่ มาจากการขายตั๋วเข้าชม ราคาตั้งแต่ 50 -200 บาท แล้วแต่ที่นั่ง ขายอาหาร เครื่องดื่มให้คนที่เข้ามาเล่นพนัน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่กันทั้งวัน ต้องดื่ม และรายได้ก้อนใหญ่จาก ส่วนแบ่ง 10 % ของเงินวางเดิมพัน ที่เจ้าของไก่ที่แพ้ต้องจ่ายให้กับเจ้าของบ่อน ซึ่งเดิมพันนั้น มีตั้งแต่หลักหมื่น ถึงแสน แล้วแต่ชื่อชั้นของไก่ และเจ้าของไก่

บ่อนไก่ แต่ละแห่งจึงน่าจะมีเงินหมุนเวียนไม่น้อยในแต่ละเดือน ใครที่ได้ใบอนุญาตเปิดบ่อน ก็ถือว่าโชคดี เป็นเจ้าของธุรกิจที่ไม่มีวันขาดทุน และต้องสำนึกในบุญคุณของผู้ที่หยิบยื่นโอกาสนี้มาให้ คือ พรรคภูมิใจไทย

การเปิดเสรีบ่อนไก่ชน จึงเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่เหนือชั้นของพรรคภูมิใจไทย แต่ว่า เป็นกลายุทธ์ที่ไม่คำนึงถึง ศีลธรรม จรรยา ผลกระทบต่อสังคม เพราะการให้เปิดบ่อนไก่ได้โดยเสรี ก็คือ การส่งเสริมให้คนไทยเล่นพนัน มัวเมาในอบายมุขกันมากขึ้นคาสิโน

เสาร์อาทิตย์ตื่นแต่เช้า เข้าบ่อนไก่ ระหว่างรอผลแพ้ชนะ ก็พนันปลากัดฆ่าเวลาไปพลางๆ หรือไม่ก็หันไปพนันมวยตู้ที่ทางบ่อนเปิดให้ดู ตกเย็นบ่อนเลิก กลับไปแทงบอลพรีเมียร์ลีก

เป็นวิธีการที่เอาแต่ได้ โดยไม่สนใจว่า สังคมจะเป็นอย่างไร

ครูกามซี7 ซื้อบริการ2นร.สาว

จับคาบ่อนไก่ชน ครูกามซี7 ซื้อบริการ2นร.สาว


จับครูซี 7 หื่นซื้อบริการนักเรียนสาวม.2 วัย 13 และ 15 ปี บุกรวบคาสนามชนไก่ หลังครูสาวพาลูกศิษย์สาวเข้าแจ้งความว่าขายบริการให้ครูหนุ่ม โดยมีกลุ่มนักเรียนหญิงม.3 เป็นแม่เล้า จ่ายค่าตัวครั้งละ 1,500 บาท แล้วพาไปหลับนอนหลายครั้งหลายหน จนครูประจำชั้นสงสัยเพราะเด็กขาดเรียนบ่อย จึงเรียกมาสอบถามจนทราบความจริง ตั้งข้อหาครูหื่น 4 ข้อหาหนัก ส่วนแม่เล้าวัยรุ่นอยู่คาสิโนระหว่างล่าตัว

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 ม.ค. พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก.สภ.อ.เมืองขอนแก่น สั่งการให้พ.ต.ท.นพเก้า โสมนัส สว.สส.สภ.อ.เมืองขอนแก่น พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบชุดพยัคฆ์ นำหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น จับกุมนายจีรพงษ์ โปร่งจิตร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 332 หมู่ 2 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ข้าราชการระดับ 7 โรงเรียนขามแก่นนคร ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในข้อหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 15 ปี พบนายจีรพงษ์กำลังเชียร์ไก่ชนอยู่ในสนามไก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับ พร้อมกับได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา นางสุภาวดี นวมทอง อายุ 42 ปี อาจารย์โรงเรียนบ้านหนองกุงวิทยาคาร ต.ศิลา นำตัวด.ญ.ไก่ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 และด.ญ.หวาน (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นเดียวกัน เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.ประทีป ปัญโญวัฒน์ พงส.(สบ 2) สภ.อ.เมืองขอนแก่น ว่านายจีรพงษ์มีพฤติกรรมร่วมเพศกับด.ญ.ทั้งสองหลายครั้ง จนเป็นเหตุให้เด็กหญิงทั้งสองคนขาดเรียน โดดเรียนบ่อยจนเป็นที่สงสัยคาสิโน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำด.ญ.ทั้งสองทราบว่า นายจีรพงษ์ได้รู้จักกับกลุ่มของน.ส.กลอย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี น.ส.โบว์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และน.ส.ฝน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ทั้งสามคนเรียนหนังสือจบชั้น ม.3 ในหมู่บ้านหนองกุง และกลุ่มของน.ส.กลอยได้ติดต่อกับนายจีรพงษ์ โดยเสนอว่าสนใจหลับนอนกับนักเรียนหญิงมัธยมหรือไม่ ซึ่งนายจีรพงษ์ได้บอกว่าสนใจ

จากนั้นน.ส.กลอยได้ติดต่อให้ด.ญ.ไก่มาพบนายจีรพงษ์ในวันที่ 25 พ.ย.49 ที่หลังโรงเรียนขามแก่นนคร จากนั้นนายจีรพงษ์ได้นำด.ญ.ไก่ไปกับรถเก๋งส่วนตัว ไปเข้าโรงแรมม่านรูดฮันนี่เฮ้าส์ บ้านหัวถนน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยนายจีรพงษ์ได้จ่ายเงินให้กับกลุ่มนายหน้าไป 500 บาท พร้อมกับจ่ายค่าตัวด.ญ.ไก่ อีก 1,000 บาท หลังจากนั้นนายจีรพงษ์ได้ติดต่อด.ญ.ไก่ผ่านกลุ่มแม่เล้าไปหลับนอนอีกหลายครั้ง ล่าสุดวันที่ 15 และ 19 ธ.ค.49 นายจีรพงษ์ได้ไปซื้อบริการทางเพศกับกลุ่มของ น.ส.กลอยอีกโดยเปลี่ยนเป็นคาสิโน

ด.ญ.หวาน

นอกจากนี้ กลุ่มนายหน้าของน.ส.กลอยยังได้ติดต่อให้ด.ญ.ไก่และด.ญ.หวานไปขายบริการให้กับผู้อื่นที่ต้องการซื้อบริการทางเพศกับเด็กนักเรียนด้วย กระทั่งนางสุภาวดี ครูประจำชั้นของด.ญ.ทั้งคู่สงสัยในพฤติกรรมของเด็ก เพราะพบเห็นกลุ่มของน.ส.กลอยมาหาที่โรงเรียนและชวนออกไปข้างนอกแบบหนีเรียนบ่อยครั้ง จึงเรียกมาสอบถาม ซึ่งด.ญ.ทั้งสองอ้างว่าจำเป็นต้องไป ไม่เช่นนั้นจะน.ส.กลอยทำร้ายร่างกาย ส่วนเงินค่าขายบริการนำไปซื้อโทรศัพท์มือถือ และเที่ยวตามสถานบันเทิง โดยระหว่างเที่ยวน.ส.กลอยจะพาไปเสนอขายทางบริการเพศไปด้วย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งด.ญ.ไก่ และด.ญ.หวานไปให้แพทย์ตรวจที่ร.พ.ศูนย์ขอนแก่น หลังจากนั้นได้ออกหมายจับนายจีรพงษ์ และไปจับกุมดังกล่าว ตั้งข้อหาว่า กระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 15 ปี พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปีไปเสียจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร พรากเด็กอายุกว่า 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี เพื่อกำไร หรือเพื่อการอนาจาร และร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และอายุกว่า 15 ปีไม่เกิน 18 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมนายจีรพงษ์มา ได้ให้ด.ญ.ไก่และด.ญ.หวานมาชี้ตัว และสามารถชี้ได้ถูกต้อง จึงส่งตัวนายจีรพงษ์เข้าห้องขังเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ติดตามจับกุมน.ส.กลอย น.ส.โบว์ และน.ส.ฝนต่อไป "เฉลิม" กับ "รายได้จากบ่อนไก่"



'เฉลิม อยู่บำรุง' ประกาศตัวสนับสนุนเปิด 'บ่อนไก่ชน' ไฟเขียวขยายเวลาเปิดบ่อนจากเดือนละ 2 วัน เป็น 4 วัน ในการประชุมผู้ว่าราชการทั่วประเทศเมื่อเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า ผู้ว่าฯสามารถเซ็นเปิดบ่อนได้ โดยแค่ลายเซ็นเดียว มีมูลค่าถึง คาสิโนป็นการสนับสนุนให้อนุรักษ์ไก่ไทยส่งเสริมวัฒนธรรมไทย โดยรับลูกมาจาก "พี่แอ๊ด คาราบาว" นักร้องเพื่อชีวิตชื่อดังที่ผันตัวมาเป็นนายกสมาคมไก่ชนไทย

เป็นที่รู้ๆ กันอยู่แล้วว่า ไก่ชนบางสายพันธุ์มีราคาที่สูงลิบ มีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน อาทิ ไก่ไทยพันธุ์เหลืองหางขาว ไก่พันธุ์เขียวหางดำ หรือสายพันธุ์ต่างชาติ อาทิ ไก่ชนไซ่ง่อนสายพันธุ์เวียดนาม ไก่สายพันธุ์พม่า จนกลายมาเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ในระดับหนึ่งเพราะคิดกันเล่นๆ ว่า ถ้าผู้ว่าฯพร้อมใจกันเปิดจังหวัดละ 1 บ่อนทั่วประเทศ 76 คาสิโนจังหวัด ตัวเลขเม็ดเงินปาเข้าไป 2 ร้อยกว่าล้านแล้ว

เลยไม่รู้ว่าเงินบ่อนเหล่านี้จะเข้ากระเป๋าใคร ให้อยู่ดีมีสุขหรือไม่ น่าจับตาดูอย่างยิ่ง. 7 หลัก !!!

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ไก่ชนพันธุ์ประดู่เลาหางขาว

ไก่ชนพันธุ์ประดู่เลาหางขาว

แหล่งกำเนิด เชื่อว่ามาจากพระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี กำแพงเพชร มีนบุรี หนองจอก สุโขทัย ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช
ประเภท เป็นไก่ชนไทยขนาดกลาง ตัวผู้หนัก 3.00 - 4.00 กก. ตัวเมียหนัก 2.50 - 3.00 กก.
สีของเปลือกไข่ เปลือกไข่สีน้ำตาลอ่อน สีของลูกเจี๊ยบ ขนหัว ขนคอขาว ขนหางดำ ปีกในสีดำ ปีกนอกสีขาว หน้าคอ หน้าท้องสีขาว
ประวัติความเป็นมา ไม่ทราบแน่ชัดว่ามีความเป็นมาอย่างไร พัฒนามาจากไก่สายพันธุ์ใด ในประวัติศาสตร์ หรือการบันทึกยังไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญท่านใดในประวัติศาสตร์
ลักษณะเด่นประจำพันธุ์เพศผู้.......คาสิโนออนไลน์


รูปร่างลักษณะของประดู่เลาหางขาว เป็นไก่รูปร่างแบบทรงหงส์ ลำตัวยาว ไหล่ยก หางดกยาวเป็นฟ่อนข้าว เดินยืดท่าทางสง่างาม แข้งกลมแบบลำหวาย หน้ากลมยาวแบบหน้านก
ใบหน้า กลึงกลมแบบหน้านกเหยี่ยว เหนียงคางรัด
ปาก ปากใหญ่ ปลายปากงุ้มสีน้ำตาลอมเหลืองเล็กน้อย ปากมีร่องน้ำลึกทั้ง 2 ข้าง สีน้ำตาลอ่อน
จมูก จมูกแบนราบสีเดียวกับปาก รูจมูกกว้าง สันจมูกเรียบ สีเดียวกับปาก
ตา ขอบตาเป็นรูปวงรีแบบตาวัว ขอบตา 2 ชั้น นัยน์ตาดำ ตารอบนอกสีเหลืองแก่แบบสีไพล เส้นเลือดสีแดงชัดเจน
หงอน หน้าหงอนบาง กลางหงอนสูง ท้ายหงอนกอดกระหม่อม หงอนสีแดงสด พื้นหงอนเรียบ
ตุ้มหู ตุ้มหูสีแดงเหมือนหงอน ขนปิดรูหูสีประดู่เลา เหมือนขนสร้อย
เหนียง เหนียงเล็กสีแดงเหมือนหงอน รัดติดกับคาง
กะโหลก กะโหลกยาวกลมเป็น 2 ตอน ตอนหน้าเล็ก ตอนหลังใหญ่กว่าgclub
คอ คอยาวใหญ่โค้งแบบคอม้า กระดูกปล้องคอชิดร่องคอ ขนสร้อยคอขึ้นดกเป็นระเบียบสีประดู่เลา
ปีก ปีกยาวใหญ่จรดก้น ขนปีกท่อนในขาวปนดำ ปีกท่อนนอกไชปีกขาว ปีกท่อนในไชปีกขาวปนดำ ปีกแน่นไม่เป็นร่องโหว่
ตะเกียบ ตะเกียบแข้งตรง ท้องแฟบรับกับตะเกียบ
หาง หางยาวดกเป็นระเบียบ สีขาวปนดำ หางพัดดำปลายขาว หางกะลวยคู่กลางสีขาวปลอด คู่อื่นๆสีขาวปนดำ หางดกยาวเป็นฟ่อนข้าว ก้านหางสีเดียวกับขน
แข้งขา ปั้นขาใหญ่ ห่างจากกัน ข้อขามั่นคง ขนปั้นขาสีดำ เป็นแข้งรูปลำเทียน ลำหวาย เกล็ดแข้ง 2 แถวเป็นระเบียบ นิ้วเรียวยาว แข้งสีเดียวกับปาก
เกล็ด เกล็ดนิ้ว เกล็ดแข้งเรียงเป็นระเบียบสีเดียวกับปากคาสิโนออนไลน์
นิ้ว นิ้วยาวเป็นลำเทียน ข้อนิ้วมีท้องปลิงหนา
เดือย เดือยเป็นเดือยแบบลูกปืน หรือแบบงาช้าง แข็งแรงมั่นคง
ขน ขนพื้นตัวสีดำ ขนกะลวยคู่กลางสีขาว คู่อื่นๆสีขาวปลายดำ ขนสร้อยคอ สร้อยปีก และสร้อยหลัง สีประดู่เลา คือโคนสร้อยสีขาว ปลายสร้อยสีประดู่
เล็บ มั่นคงแข็งแรง สีเดียวกับเกล็ดแข้งและปาก
สร้อย สร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง สีประดู่เลา คือ ขนสร้อยท่อนล่างสีขาว ท่อนปลายสีประดู่
กระปุกน้ำมัน เป็นกระปุกใหญ่ ปลายเดียว



ประดู่เลามี 4 เฉดสี คือ
1. ประดู่เลาใหญ่ หรือเรียกอีกชื่อว่าเลาใหญ่พระเจ้า 5 พระองค์ ขนพื้นตัวสีดำ ขนปีก ขนหางเป็นสีดำแซมขาว ขนหางกะลวยคู่กลางสีขาวปลอด คู่อื่นๆสีขาวปลายดำ ที่หัว-หัวปีก-ข้อขา มีกระขาว ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยระย้า โคนสร้อยสีขาว ปลายสร้อยสีเม็ดมะขามแก่ ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีน้ำตาล ตาสีไพล
2. ประดู่เลาเล็ก ขนพื้นตัวสีดำ ขนปีก ขนหางพัดสีดำแซมขาว ขนหางกะลวยคู่กลางสีขาว คู่อื่นๆสีขาวปลายดำ ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง ระย้า โคนขนสีขาว ปลายขนสีเม็ดมะขามแก่ ไม่มีหย่อมกระ ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีน้ำตาล ตาสีไพล
3. ประดู่เลาแดง ขนพื้นตัวสีดำ ขนปีก ขนหางพัดสีดำแซมขาว ขนหางกะลวยคู่กลางสีขาว คู่อื่นๆสีขาวปลายดำ ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง ระย้า โคนสร้อยสีขาว ปลายสร้อยสีประดู่แดง ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีน้ำตาล ตาสีไพลหรือส้ม
4. ประดู่เลาดำ ขนพื้นตัวสีดำ ขนปีก ขนหางพัดสีดำแซมขาว ขนหางกะลวยคู่กลางสีขาว คู่อื่นๆสีขาวปลายดำ ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีน้ำตาล ตาสีไพล ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง โคนสร้อยสีขาว ปลายสร้อยสีคล้ำเข้มแบบเขียวประดู่

ยาถ่ายไก่

สมุนไพร ไก่ชน

คาสิโนออนไลน์ยาถ่ายโบราณคนนิยมใช้กันมากมีส่วนผสมดังนี้

  1. เกลือประมาณ 1 ช้อนคาว
  2. มะขามเปียก 1 หยิบมือ
  3. ไพลประมาณ 5 แว่น
  4. บอระเพ็ดยาวประมาณ 2 นิ้ว หั่นเป็นแว่นบาง ๆ
  5. น้ำตาลปีบประมาณ 1 ช้อนคาว
  6. ใบจากเผาไฟเอาถ่าน (ใช้ใบจากประมาณ 1 กำวงแหวน)

ใช้ครกตำให้ละเอียดเข้า ด้วยกัน เวลาใช้ยาควรให้ไก่กินเวลาเช้าท้องว่าง ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดหัวแม่มือ 2 เม็ด ให้น้ำกินมาก ๆ หน่อย แล้วครอบผึ่งแดดไว้รอจนกว่ายาจะออกฤทธิ์ ถ่ายเป็นน้ำ 3 ครั้ง ก็พอแล้วเอาข้าวให้กินเพื่อให้ยาหยุดเดิน

น้ำสำหรับอาบไก่

ปกติไก่เลี้ยงจะต้องอาบน้ำยาจนกว่าไก่จะชน เครื่องยาที่ใส่น้ำต้มมีดังนี้

  1. ไพลประมาณ 5 แว่น
  2. ใบส้มป่อยประมาณ 1 กำมือ
  3. ใบตะไคร้ ต้นตะไคร้ 3 ต้น
  4. ใบมะกรูด 5 ใบ
  5. ใบมะนาว 5 ใบ

เอา 5 อย่างมารวมกันใส่หม้อต้มให้เดือดแล้วทิ้งไว้ให้อุ่น พออุ่น ๆ แล้วค่อยอาบน้ำไก่ แล้ว นำไปผึ่งแดดให้ขนแห้ง

สมุนไพรเกี่ยวกับโรคผิวหนัง บาดแผล เห็บหมัด ไรไก่

สมุนไพรเดี่ยว
  1. รากหนอนตายอยาก แผลติดเชื้อ มีหนอง มีหนอน ตำให้แหลก พอก หรือคั้นน้ำ ทาแผล
  2. ตะเคียน ต้มเคี่ยวใช้ทาแผล หรือตำให้แหลกแช่น้ำ ใช้แช่เท้าเปื่อย
  3. ประดู่ ต้มเคี่ยวใช้ทาแผล
  4. หนามคนทา ใช้ฝนทาแผล หนอง
  5. ลูกหนามแท่ง ต้มใช้น้ำชะล้างแผล หรือชำระล้าง
  6. ลูกมะคำดีควาย ต้ม ใช้น้ำชำระล้าง
  7. กำมะถันแดง โรยบนเตาไฟใช้รมบาดแผล
  8. gclubหนามกำจาย ฝนทาแผล ติดเชื้อ
  9. เปลือกสีเสียด ต้มเคี่ยว ใช้ล้างแผล แช่เท้าเปื่อย
  10. ว่านมหากาฬ ตำพอกแผล
  11. ฟ้าทะลายโจร ต้มเคี่ยวใช้ชะล้าง
  12. ยาฉุน แช่น้ำ ไล่เห็บ เหา หมัด ไรไก่
  13. แมงลักคา ขยี้สดๆวางไว้ในเล้าไก่ไล่ไรไก่

น้ำยาอาบไก่ชน รักษาผิว และทำให้ไก่แข็งแรง

น้ำยาอาบไก่ชน รักษาผิว และทำให้ไก่แข็งแรง

  1. ไม้กระดูกไก่ทั้ง ๒
  2. เปลือกสมอทะเล
  3. ยอดส้มป่อย
  4. ขมิ้น
  5. ใบหนาด

คาสิโนออนไลน์ต้มรวมทั้งหมดเอาน้ำใช้อาบ

น้ำยาอาบไก่ชน รักษาผิว และทำให้ไก่แข็งแรง

  1. ไพล
  2. ขมิ้น ( ขมิ้นอ้อย หรือขมิ้นก็ได้ )

ตำใช้ประคบ

พืชสมุนไพรป้องกันหวัดไก่

พืชสมุนไพรป้องกันหวัดไก่ ภูมิปัญญาไทยแท้แต่โบราณ จาก สถานะการณ์ ไข้หว้กนกที่ผ่านมา ในขณะที่ฟาร์มไก่เป็นโรค ระบาดตายหมดเล้า แต่เรากลับพบว่า "ฟาร์มไพบูลย์" ตั้งอยู่เลขที่ 23 หมู่ 3 ตำบลบ้านสร้าง อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีไก่ไข่ที่เลี้ยงไว้ประมาณ 20,000 ตัว ในพื้นที่ 5 ไร่ กลับไม่ เป็นอะไรเลย ยังมีอาการปกติดีทุกอย่างไพบูลย์ รักษาพงษ์พานิชย์ อายุ 55 ปีเจ้าของฟาร์มไก่ไข่ เล่าว่า เขามีเทคนิคในการเลี้ยงไก่ ที่ไม่เหมือนกับฟาร์มอื่นๆ กล่าวคือเขาได้ใช้สมุนไพรไทย เข้ามาช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับไก่ไข่ภายในเล้า โดยเคล็ดลับ ในการเลี้ยง และดูแลรักษาไก่ ให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคระบาด โดยเฉพาะโรคไข้หวัด และโรคอหิวาต์นั้น ใช้ ฟ้าทะลายโจรผง และบอระเพ็ดผสมให้ไก่กิน ซึ่งฟ้าทะลายโจรนี้ใช้ได้ทั้งก้าน และใบนำมาบดผสมเข้ากับบอระเพ็ด อัตราส่วนโดยประมาณ ฟ้าทะลายโจร 1 ตัน ผสมบอระเพ็ด 2 กิโลกรัม แล้วนำสมุนไพรที่ว่านี้ผสมลงในอาหารอีกครั้ง อัตราส่วนสมุนไพร 15 กิโลกรัมต่ออาหารไก่ 1,000 กิโลกรัม คลุกเคล้าผสมให้เข้ากัน ก่อนนำเอาไปให้ไก่กินทุกวันฟ้าทะลายโจรจะช่วยในเรื่องของการป้องกันในเรื่องของหวัดไก่และคุมเรื่องโรคอหิวาต์ หรือโรคท้องร่วงที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงหน้าหนาว เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับไก่ ทำให้ไก่มีสุขภาพแข็งแรงไม่เป็นโรคหรือติดโรค ง่ายเวลาที่มีการระบาด เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดกันมานาน และค่อนข้างใช้ได้ผล ซึ่งนอกจากสมุนไพรแล้ว เรื่องของ "น้ำ" ก็สำคัญ เพราะเชื้อมักมากับน้ำ ฉะนั้นการใช้น้ำคลองหรือน้ำบาดาลให้ไก่กิน ควรใส่ยาฆ่าเชื้อพวกคลอรีนหรือเพนนิซิลลินเสียก่อนอีกวิธีที่ใช้กันมานาน ก็คือ การใช้ตะไคร้ วิธีการก็คือนำตะไคร้ทั้งกอมาต้มให้ไก่กินแทนน้ำ (การต้มน้ำก็เป็นการฆ่าเชื้อโรคได้ทางหนึ่ง)

ส่วนไอน้ำตะไคร้ที่ต้มก็ให้ใช้วิธีต่อท่อพ่นเข้าไปในเล้าไก่ แต่ทั้งนี้ต้องทำความสะอาดเล้าไก่ให้ดีเสียก่อน เชื่อว่าเป็นการไล่หวัดไก่ได้ วิธีการนี้เคยใช้เมื่อครั้งเกิดโรคระบาดไก่สมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม แม้เกษตรกรบางรายอาจจะมองว่าเป็นการไปเพิ่มต้นทุน แต่ถ้าสามารถป้องกันโรค และไม่เกิดความเสียหายจากโรคระบาดที่เกิดขึ้นก็ถือว่าคุ้มที่จะลงทุน ตามสำนวนไทยที่ว่า ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน แนะใช้ "สมุนไพร" แทนยาปฏิชีวนะ เสริมสร้างคาสิโนออนไลน์สุขภาพ ป้องกันโรคระบาดในไก่

วิจัยพบสมุนไพรหลายชนิด เช่น ฟ้าทลายโจร ขมิ้นชัน พริก ฝรั่ง มีฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกันโรคติดต่อในไก่ สามารถใช้ทดแทนยาปฏิชีวนะที่กำลังเป็นปัญหาในการส่งออกได้ สกว. หนุนวิจัยเชิงลึก ทั้งสร้างมาตรฐานการใช้สมุนไพร การผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ รวมถึงวิธีการปลูก ที่นอกจากจะช่วยรักษาตลาดส่งออกไก่เนื้อ มูลค่าสี่หมื่นล้านบาทต่อปี และเปิดตลาดอาหารสุขภาพแล้ว ยังเป็นทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรไทยที่จะหันมายึดอาชีพปลูกสมุนไพรอีกด้วย

หนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ก็คือ "โรคระบาด" เพราะทุกครั้งที่มีโรคระบาดเกิดขึ้นจะสร้างความสูญเสียกับผู้เลี้ยงเป็นอย่างมาก และเป็นการยากที่จะป้องกันไม่ให้โรคลุกลามไปยังไก่ที่เหลือในเล้าและฟาร์มใกล้เคียง ดังที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่หลายจังหวัดในขณะนี้

สาเหตุสำคัญของการระบาดก็คือ สภาพของการเลี้ยงไก่จำนวนมากในพื้นที่น้อย ๆ ซึ่งนอกจากสร้างความเครียดให้กับไก่แล้ว ยังทำให้ไก่กินอาหารน้อยลงและมีภูมิต้านทานโรคลดต่ำลง จนเป็นเหตุให้เกิดโรคระบาดได้ง่าย ซึ่งแนวทางหนึ่งในการดูแลสุขภาพไก่ก็คือ การใช้ยาหรือสารปฏิชีวนะผสมในน้ำหรืออาหารที่ไก่กิน เพื่อช่วยลดความเครียดและกินgclubอาหารได้มากขึ้น ซึ่งทำให้ภูมิต้านทานโรคดีขึ้น

น.สพ.ยุคล ลิ้มแหลมทอง อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวในการประชุมวิชาการ "สมุนไพรไทย : โอกาสและทางเลือกใหม่ ของอุตสาหกรรมผลิตสัตว์ ครั้งที่ 2 " ว่าขณะนี้นโยบายของกระทรวงเกษตรฯ คือ การสร้างความปลอดภัยด้านอาหารเพื่อผู้บริโภคในประเทศและการส่งออก แต่ปัจจุบันยังมีการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหาร เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของไก่อยู่ค่อนข้างมาก แต่ขณะเดียวกันมีการศึกษาวิจัยในด้านการใช้สมุนไพรอย่างจริงจังในหลายหน่วยงาน ซึ่งหากพบว่าสามารถใช้ทดแทนได้จริง ทางกระทรวงโดยกรมปศุสัตว์ก็พร้อมให้การสนับสนุน

"สมุนไพร" เป็นทางเลือกใหม่ในอุตสาหกรรมผลิตสัตว์ ในการแก้ปัญหาการตกค้างของสารต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้มีงานวิจัยอยู่มากพอสมควร และเราได้กำหนดมาตรการการเลี้ยงสัตว์ในบ้านเราให้ยาปฏิชีวนะน้อยที่สุด หากใช้ ต้องใช้เพื่อการรักษาเท่านั้น และหากจะใช้ต้องมีระยะหยดยาด้วย ซึ่งทำให้สมุนไพรอาจเป็นคำตอบของเรื่องนี้ก็ได้ และหากมีงานวิจัยที่ยืนยันได้ว่าใช้สมุนไพรแทนได้จริงทั้งเรื่องประสิทธิภาพและความคุ้มค่า เราก็พร้อมสนับสนุน เพราะจะมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะตลาดสินค้าอินทรีย์ที่ยุโรป ซึ่งเขาต้องการสินค้าพวกนี้ โดยไม่เกี่ยงเรื่องราคา

รศ.ดร.จันทร์จรัส เรี่ยวเดชะ ผู้อำนวยการฝ่ายเกษตร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย สกว. กล่าวเสริมว่า การใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงสัตว์ไม่ได้รับการยอมรับจากตลาดต่างประเทศ เนื่องจากเกรงผลตกค้างที่อาจทำให้เกิดการดื้อยาในผู้บริโภค โดยหลังปี 2006 สหภาพยุโรปจะห้ามใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อเร่งการเจริญเติบโตในสัตว์ทุกชนิด รวมถึงไก่เนื้อส่งออกของไทย ที่ขณะนี้ส่งออกเป็นอันดับ 4 ของโลก มีมูลค่าส่งออกทั่วโลกกว่าสี่หมื่นล้านบาทในปี 2546 ภาคอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ของไทยจึงต้องเตรียมความพร้อมและปรับตัวเพื่อรับมาตรการดังกล่าว เพราะมาตรฐานด้านความปลอดภัยของผู้บริโภคทุกประเทศจะมีแนวโน้มไปในทางเดียวกัน

"ปัญหาคือ มีรายงานในยุโรปพบว่า สัตว์ที่ได้รับสารปฏิชีวนะในระดับต่ำ ๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน จะทำให้ร่างกายเกิดการดื้อยาปฏิชีวนะนั้น เพราะฉะนั้นการบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีการใช้สารเหล่านี้เข้าไปเป็นประจำ ก็อาจมีผลให้เกิดการดื้อยาปฏิชีวนะในมนุษย์ได้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นแรงผลักดันให้หลายประเทศในตะวันตกนำมาตรการต่าง ๆ มาใช้เป็นกลยุทธ์ป้องกัน เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับสารเหล่านี้ และหนึ่งในนั้นคือ มาตรการห้ามนำเข้าไก่ที่มีการเลี้ยงโดยคาสิโนออนไลน์เติมสารปฏิชีวนะ"

ในเรื่องดังกล่าว ภาคอุตสาหกรรมส่งออกไก่เนื้อของไทย ทั้งในรูปไข่ไก่แช่แข็งและแปรรูป ก็มิได้นิ่งนอนใจ หลายบริษัทเริ่มหันมาศึกษาหาแนวทางในการลดละเลิกการใช้สารปฏิชีวนะเหล่านี้ ซึ่งหนึ่งในคำตอบนี้คือ "สมุนไพร" รศ.ดร. จันทร์จรัส กล่าวว่า งานวิจัยภายใต้ชุดโครงการ "การใช้สมุนไพรในการผลิตสัตว์" โดยการสนับสนุนของ สกว. ที่ผ่านมา ได้พบสมุนไพรหลายตัว เช่น ฟ้าทลายโจร ขมิ้นชัน พริก ใบหรือผลฝรั่งอ่อน มีคุณสมบัติช่วยให้ไก่ที่เลี้ยงไว้มีอัตราการรอด และการเจริญเติบโตไม่แพ้การเลี้ยงโดยเติมสารปฏิชีวนะ ซึ่งสิ่งที่ สกว. กำลังทำอยู่ในปัจจุบันคือ การพยายามหาตัวเลข หรือค่าบางตัวที่จะบอกได้อย่างชัดเจนว่า สมุนไพรมีผลดีต่อสัตว์จริง ในเชิงวิชาการนำปัญหาจากภาคอุตสาหกรรมมาแปลงเป็นโจทย์วิจัย เพื่อให้นักวิจัยสาขาต่าง ๆ ได้ช่วยกันศึกษาและสรุปผล ให้คำตอบที่ถูกต้องแก่ผู้เลี้ยงสัตว์

ศ.ดร. นันทวัน บุณยะประภัคร จากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะผู้ประสานงานโครงการชุดนี้ กล่าวว่า จากผลการวิจัยที่ผ่านมา แม้จะพบว่า มีพืชหลายชนิดมีศักยภาพในการนำมาใช้เป็นสารเติมในอาหารสัตว์ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะ หากยังอยู่ในระดับการศึกษาเพื่อดูผลจากการนำไปใช้ แต่สิ่งที่จะดำเนินการต่อในช่วง 2 ปี ข้างหน้าgclubนี้ คือการวิจัยเพื่อสร้างระบบในการนำสมุนไพรเหล่านี้มาใช้อย่างเป็นรูปธรรม

"ขณะนี้ งานวิจัยถึงผลของการใช้พืชเหล่านี้กับกระบวนการออกฤทธิ์ในสัตว์ เช่น ลดความเครียด หรือช่วยในการย่อย ได้ผลในเบื้องต้นแล้วพบว่า การใช้ฟ้าทลายโจร และขมิ้นชัน มีผลในทางบวกต่อไก่อย่างเห็นได้ชัด ส่วนการวิจัยในพืชชนิดอื่น เช่น พริก ใบฝรั่ง กระเทียม ก็ยังพบว่ามีผลต่ออัตราการโตและอัตราการรอดของสัตว์เหล่านี้ และนอกจากงานวิจัยทั้งสองส่วนนี้แล้ว เรายังได้สนับสนุนให้นักเภสัชศาสตร์ทำการวิจัยเพื่อหาวิธีการนำสมุนไพรเหล่านี้ มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ง่ายต่อการผสมในอาหาร ที่เก็บได้นาน ทนต่อความชื้น และคงตัวต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งงานนี้จะดำเนินไปพร้อมกับการนำผลิตภัณฑ์ที่ได้ไปทดสอบใช้กับการเลี้ยงไก่เนื้อและหมู เพื่อหาส่วนผสมที่เหมาะสมที่สุด คุ้มค่าที่สุด ซึ่งคาดว่าภายในปีหน้า จะมีผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรสำหรับการเลี้ยงไก่และสุกรออกมาทดลองตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งล่าสุด มีภาคเอกชนแสดงความสนใจจะเข้าร่วมทุนวิจัยและพัฒนาแล้ว"

นอกเหนือจากการวิจัยถึงผลการใช้ต่อสัตว์ หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว ศ.ดร.นันทวัน กล่าวว่า งานวิจัยอีกส่วนหนึ่งกำลังดำเนินการภายใต้ชุดโครงการวิจัยนี้คือ การวิจัยเพื่อหารูปแบบการปลูกพืชสมุนไพรที่เหมาะสมทั้งระดับเกษตรและระดับอุตสาหกรรมไทย เพราะหากขาดส่วนนี้ไป แม้สมุนไพรชนิดนั้นจะดีอย่างไร หากเราปลูกขึ้นมาไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ ซึ่งงานวิจัยส่วนนั้นนอกจากช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตสัตว์แล้ว ยังอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการประกอบอาชีพของเกษตรกรไทยยุคหน้าได้อีกด้วย

ท่ามกลางปัญหาโรคระบาดไก่ที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน นอกเหนือจากการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว การป้องกันในระยะยาวด้วยการประยุกต์ภูมิปัญญาไทย และภูมิความรู้ด้านสมุนไพร มาใช้ทดแทนสารที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ อาจกลายเป็นทางเลือกหรือคำตอบใหม่ของการดูแลสุขภาพไก่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ายิ่งขึ้น

ในปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของโรคที่เกี่ยวกับไก่รุนแรงและสร้างความเสียหายให้กับกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ เป็นอันมาก เกษตรกรบางรายสงสัยว่า ทำวัคซีนแล้วแต่ไก่ก็ยังตายหมดทั้งฟาร์ม ซึ่งกระแสข่าวที่ผ่านมาทำให้คนไทยกลัวที่จะรับประทานไก่ เพราะกลัวโรคระบาดนั้นจะติดต่อมาสู่คน

ส่วนใหญ่การรักษาโรคไก่มักจะใช้กลุ่มยาปฏิชีวนะ โดยเฉพาะกลุ่มของไก่พื้นเมือง ซึ่งอาจมีผลให้เกิดสารตกค้างถึงมนุษย์ และการรักษาดังกล่าวก็อาจทำให้ไก่ที่เหลืออยู่เป็นพาหะของโรคต่อไปหรือส่งผลให้เชื้อโรคที่ยังอยู่มีพัฒนาการต่อก็ได้ ซึ่งล้วนเป็นปัญหาหรือก่อให้เกิดความหวาดกลัวต่อไป

การแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยพืชสมุนไพรเป็นอีกลู่ทางหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจและมีการสนับสนุน เช่น การใช้สมุนไพรฟ้าทลายโจร (Andrographis paniculata Wall. Ex Nees) เป็นพืชสมุนไพรทางการแพทย์ มีส่วนประกอบทางเคมีเป็นสารพวก diterpene lactones ออกฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น Esherichia coli และ Salmonella typhi ยับยั้งเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจ เช่น Staphylococcus aureus และมีสรรพคุณแก้ไข้ แก้หวัด แก้โรคบิด โรคท้องร่วง และแก้แผลบวมอักเสบ ซึ่งสรรพคุณที่ดีเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นในด้านการป้องกันรักษาโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับไก่ เช่น โรคอุจจาระขาว ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียพวก Salmonella pullorum และในปัจจุบัน (ปี 2547) ได้มีโรคระบาดที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุว่าเป็นโรคนิวคาสเซิล สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครสวรรค์ระบุว่า เกิดจากโรค แซลโมเนลลา (Salmonellasis) gclubหรือโรคขี้ขาว และโรคอหิวาห์เป็ดไก่ที่ชื่อ Fowl Cholera

ผู้รายงานได้มีโอกาสเข้าศึกษาระดับปริญญาโทที่คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร และทำการศึกษาหาระดับที่เหมาะสมและศึกษาผลของสมุนไพรฟ้าทลายโจร (Andrographis paniculata) ในสูตรอาหารไก่ ต่อประสิทธิภาพการผลิตและลดปัญหาโรคอุจจาระขาวในไก่พื้นเมือง โดยใช้ไก่พื้นเมืองคละเพศ อายุแรกเกิด จำนวน 160 ตัว โดยมี ดร.โอภาส พิมพา และ รศ.เดช วัฒนชัยยิ่งเจริญ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ภายใต้ทุนคาสิโนออนไลน์สนับสนุนการวิจัยของมหาวิทยาลัยนเรศวร

ในการทดลองเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลา 14 สัปดาห์ ซึ่งในช่วงการทดลองนั้นไก่จะถูกสุ่มแบ่งออกเป็นกลุ่ม จำนวน 16 กลุ่ม กลุ่มละ 10 ตัว แต่ละกลุ่มจะถูกสุ่มแบบอิสระ ให้ได้รับอาหารทดลองที่มีสมุนไพรฟ้าทลายโจรในส่วนประกอบมากขึ้น 4 ระดับ คือ 0% 0.5% 1.0% และ 1.5% ในสูตรอาหารตามลำดับ

ไก่แต่ละกลุ่มที่ได้รับอาหารในแต่ละสูตรจะให้กินได้อย่างเต็มที่ เพื่อวัดปริมาณการกินได้ ในแต่ละคอกจะมีน้ำสะอาดให้กินตลอดเวลา

ในช่วงสัปดาห์ที่ 8 ครึ่งหนึ่งของไก่ที่ได้รับอาหารทดลองแต่ละสูตร จะถูกสุ่มให้ได้รับเชื้อ Salmonella pullorum ซึ่งเชื้อจะถูกฉีดเข้าปากสู่ทางเดินอาหารโดยตรง

วัดอัตราการเจริญเติบโต ประสิทธิภาพการใช้อาหาร ศึกษาอาการเครียดและเหงาซึม ตลอดทั้งวัดคุณภาพซากเมื่อเลี้ยงครบ 14 สัปดาห์ ซึ่งไก่จะมีอายุ 16 สัปดาห์ จากการศึกษาพบว่าระดับของฟ้าทลายโจรที่เหมาะสมในสูตรอาหารคือ 1.0% เพราะมีผลให้ไก่กินอาหารได้มากที่สุด และมีแนวโน้มให้ไก่มีน้ำหนักตัวสูงที่สุด ตลอดทั้งอัตราการเจริญเติบโตสูงที่สุดด้วย

นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันผลเสียอันเกิดจากเชื้อ Salmonella pullorum ที่มีต่อไก่ เช่น อาการเครียด ส่งผลต่อการกินอาหารที่ลดลงและอัตราการเจริญเติบโตที่ลดลง ซึ่งระดับฟ้าทลายโจร 1.0% ในสูตรอาหารยังสามารถทำให้อัตราการแลกเนื้อดีที่สุดในช่วงที่ไก่ได้รับเชื้อ Salmonella pullorum

สมุนไพรฟ้าทลายโจรในสูตรอาหารจะช่วยทำให้เปอร์เซ็นต์ซากดีขึ้น และมีผลให้เปอร์เซ็นต์เนื้อหน้าอกมากด้วย ซึ่งในไก่พื้นเมืองสามารถย่อยสมุนไพรได้ดีกว่าไก่พันธุ์เนื้อในระบบฟาร์ม

หลังจากเสร็จสิ้นการศึกษาในเดือนพฤศจิกายน 2546 จึงได้ใช้อาหารที่มีระดับฟ้าทลายโจรในสูตรอาหารระดับ 1% เรื่อยมา และหลังจากนั้นไก่ในฟาร์มที่เลี้ยงไม่มีอาการป่วยแสดงให้เห็น รวมทั้งในช่วงที่มีการระบาดที่รุนแรงและเฉียบพลันยังได้นำฟ้าทลายโจรน้ำหนักแห้งจำนวน 10 กรัม ผสมน้ำ 2.5 ลิตร ให้ไก่กินทุกวันอย่างสม่ำเสมอ พบว่าสามารถลดอัตราการตายของไก่พื้นเมืองลูกผสม 5 สายพันธุ์ ลงได้ (มีอัตราการตายประมาณ 7%)

ทั้งนี้ไก่ทุกตัวต้องได้รับการทำวัคซีนตรงตามโปรแกรมที่กรมปศุสัตว์กำหนด จึงได้ทดสอบง่ายๆ ในช่วงที่ 2 โดยเริ่มจากแบ่งไก่ออกเป็น 16 คอก คอกละ 6 ตัว ซึ่งไก่ทุกตัวมีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง หลังจากนั้น ได้นำไก่ชาวบ้านที่gclubป่วยเป็นโรคระบาดดังกล่าว มาใส่รวมไว้ในคอกที่ 2 ให้น้ำเปล่าตามปกติ

หลังจากนั้นสังเกตอาการป่วย ปรากฏว่าไก่คอกที่ 2 มีอาการป่วยอย่างเห็นได้ชัดเจน จึงเริ่มให้ฟ้าทลายโจรน้ำหนักแห้ง 10 กรัม ผสมน้ำ 2.5 ลิตร ให้ไก่กินตั้งแต่คอกที่ 5-16 ปรากฏว่า ไก่คอกที่ 1-4 ตายหมด คอกที่ 5-16 ไม่ตายและยังมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง

หลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ หยุดให้ฟ้าทลายโจร และนำน้ำฉีดลงที่พื้นคอกให้เปียกแฉะ (พื้นคอกปูด้วยแกลบ) สังเกตอาการของไก่ที่เหลือพบว่ามีไก่ป่วยแต่อาการไม่รุนแรง จึงให้ฟ้าทลายโจรอีกครั้งหนึ่งผสมลงในน้ำอัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 2.5 ลิตร พบว่าสามารถลดอัตราการตายของไก่พื้นเมืองลูกผสม 5 สายพันธุ์ ลงได้ ซึ่งถ้าหากได้มีการทดลอง วิจัยในระดับที่ละเอียดและชัดเจน อาจจะมีประโยชน์ต่อวงการปศุสัตว์ได้มากขึ้น ดังนั้น การให้อาหารที่มีพืชสมุนไพรฟ้าทลายโจร 1.0% ในสูตรอาหารจึงยังคงสร้างกำไรและลดอัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคในฟาร์มได้ และหากเกษตรกรมีการปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทลายโจรใช้เองจะทำให้การเลี้ยงไก่ได้กำไรมากยิ่งขึ้น เพราะสมุนไพรฟ้าทลายโจรมีราคาแพง หากจะจัดซื้อมาผสมอาหารไก่เอง ซึ่งมีราคาประมาณ 200 บาท ต่อกิโลกรัม

gclub

ไก่ชนพันธุ์นกกด

ไก่ชนพันธุ์นกกด

ประวัติความเป็นมา
ไก่นกกด เป็นไก่สวยงามอีกพันธุ์หนึ่ง ท่าทางยืนเด่นสง่าผ่าเผยชนเชิงดี มักมีแข้งเปล่าเป็นไก่ชนดุดัน ไม่กลัวใครไก่นกกดเป็นไก่สายพันธุ์แท้แต่โบราณมาแต่ ครั้งอยุธยา โด่งดังเมื่อครั้งฉลองกรุงหงสาวดีจัดให้มีการชนไก่หน้าพระที่นั่งพระเจ้าบุ เรงนอง ขณะที่สมเด็จพระนเรศวรยังทรงพำนักอยู่ในประเทศพม่าและได้เลี้ยงเป็นพ่อ พันธุ์สืบทอดในประเทศพม่าจนถึงปัจจุบัน
คาสิโนออนไลน์
แหล่งกำเนิด ไก่นกกด มีแหล่งกำเนิดอยู่ทั่วๆ ไปแถบ จังหวัดนครสวรรค์ ราชบุรี เพชรบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี เป็นต้น
สีของเปลือกไข่ เปลือกไข่สีน้ำตาลแดง
ลักษณะลูกไก่ มีขนสีแดงลายลูกหมาป่า หรือลายกระทิง ปาก แข้ง และเล็บ สีเหลืองอมแดงgclub

ลักษณะเด่นประจำพันธุ์เพศผู้
# รูปร่างลักษณะ ไก่นกกดเป็นไก่รูปทรงงดงามอีกสายพันธุ์หนึ่ง รูปร่างสูงโปร่ง ทรงระหง ไหล่กว้าง หลังยาว ปีกใหญ่ และยาว หางยาวเป็นพลูจีบ หรือฟ่อนข้าว ปั้นขาใหญ่ คอยาว ปากใหญ่ ปลายงุ้ม สีเหลืองอมแดงรับกับเล็บแลเดือย
# ปีก ปีกยกใหญ่ เป็นลอนเดียว สร้อยหัวปีกสีแดงเป็นมัน กลางปีกสีแดงแบบพื้นตัว สีขนปลายปีกสีแดงอมน้ำตาลแบบสีปีกแมลงสาบ
# ปาก ปากใหญ่ ปลายงุ้ม สีเหลืองอมแดงรับกับเล็บและเดือย
# ตะเกียบ ตะเกียบก้นแข็งชิดและขนานกัน
# จมูก จมูกกว้าง สันจมูกเรียบ สีเดียวกับปาก
# หาง ขั้วหางใหญ่ หางพัดดก เรียงเป็นระเบียบ สีดำ หางกระรวยดก ยาวสีดำ หางเป็นลักษณะฟ่อนข้าวหรือพลูจีบ
# ตา ขอบตาเป็นรูปวงรี สองชั้น ตาสีเหลืองอมแดง เส้นตาสีแดง
# แข้งขา แข้งเล็ก เรียวกลม สีเหลืองอมแดง สีรับกับปากและเดือย
# หงอน เป็นหงอนหิน 3 แฉก ผิวหงอนบางเรียบ หน้าหงอนบาง กลางหงอนสูง ท้ายหงอนกด หงอนมักจะเบ้ออกบ้างเล็กน้อย
# เกล็ด เกล็ดแข้งเรียงเป็นระเบียบสีเดียวกับปาก
# หู ตุ้มหู ขนปิดหูสีแดงแบบสร้อย ตุ้มหูรัดรึงติดกับหน้า ดูกระชับไม่หย่อนยาน
# นิ้ว นิ้วเรียว ยาว กลม มีตัวปลิงชัดเจน
# เหนียง เหนียงรัดติดกับคาง ไม่หย่อนยาน สีแดงสดใส เหมือนหงอน
# เดือย เดือยเป็นเดือยงาช้าง สีเดียวกับแข้งและปากคาสิโนออนไลน์
# กระโหลก กะโหลกหัวยาวสองตอน มีรอยไขหัวชัดเจน
# ขน ขนพื้นลำตัวสีดา ขนสร้อยคอขึ้นเป็นระเบียบ ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลังระย้าสีแดงอมน้ำตาล ขนหางสีดำ ขนปั้นขาสีดำ ขนปีกสีแดง ขนปลายปีกสีแดงอมน้ำตาลเข้มคล้ายสีปีกแมลงสาบ
# คอ คอยาวใหญ่ โค้งลอนเดียวแบบคอม้า กระดูกปล้องคอชิด แน่น
# กริยาท่าทาง ไก่นกกดเป็นไก่สวยงามอีกพันธุ์หนึ่ง ท่าทางยืนเด่น สง่าผ่าเผย ขนเชิงตี เป็นไก่ชนดุดัน ไม่กลัวใคร

ลักษณะเด่นประจำพันธุ์เพศเมีย
ขนพื้นตัวสีน้ำตาลแบบสีกาบอ้อย สร้อยคอสีน้ำตาล ขนหลัง ขนปีก สีน้ำตาล ขนปลายปีกจะมีสีน้ำตาลเข้มแบบสีแมลงสาบ ขนหางพัดสีดำ ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีเหลืองอมแดง ขนปิดหูสีน้ำตาล ตาสีเหลืองอมแดง จะเป็นกดเฉดสีอะไรให้สังเกตดูที่สร้อยคอ จะขลิบสีเหมือนขนสร้อยตัวผู้

สายพันธุ์ไก่นกกด แบ่งได้ตามเฉดสีถึง 3 ชนิด คือ
1.ไก่นกกดแดง ขนพื้นลำตัวสีดำ ขนหางพัด หางกระรวยสีดำ ขนปีกสีแดง ปลายปีกสีน้ำตาลเข้มแบบสีแมลงสาบ ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง ขนปิดหู เป็นสีน้ำตาลอมแดง ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีเหลืองอมแดง ตาสีแดง
2.ไก่นกกดดำ ขนพื้นลำตัวสีดำ ขนหางพัด หางกระรวย สีดำ ขนปีกสีแดง ปลายปีกสีน้ำตาลเข้มแบบสีแมลงสาบ ชนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง ขนปิดหูเป็นสีน้ำตาลอมดำคล้าย ๆ สีประดู่ แสมดำ ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีเหลืองอมแดงอมดำ ตาสีแดงเข้ม
3.ไก่นกกดเหลือง ขนพื้นลำตัวสีดำ ปลายปีกสีน้ำตาลเข้มแบบสีแมลงสาบเช่นเดียวกับตัวอื่นๆ บางตัวจะมีลายดำอยู่ที่ปีก จึงเรียกว่า กดลาย ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง ขนปิดหู เป็นสีแดงอมดำอมน้ำตาล แบบสีตัวนากหรือนกกระปูด ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีเหลืองอมแดงอมดำ

วิธีการเลี้ยงไก่สำหรับชน

วิธีการเลี้ยง ไก่ชน

การเลี้ยงไก่สำหรับชนนั้น มีหลายอย่างหลายชนิดแล้วแต่ครูบาอาจารย์ใดจะสั่งสอนมา แต่ที่จะนำมากล่าวนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด ระยะการปล้ำและทำตัวไก่หนุ่ม ไก่หนุ่มที่จะเริ่มเลี้ยงครั้งแรก ต้องลงขมิ้นให้ทั่วทั้งตัวเสียก่อน เพื่อสะดวกในคาสิโนออนไลน์การอาบน้ำ และป้องกันไรได้ดีอีกด้วย

  1. เริ่มอาบน้ำเวลาเช้าทุกวัน ควรใช้ผ้าประคบหน้าทุกครั้งที่มีการอาบน้ำ ลงกระเบื้อง เนื้อตัวบาง ๆ แล้วลงขมิ้นตามเนื้อบาง ๆ แล้วนำไปผึ่งแดด พอรู้ว่าหอบก็นำไก่เข้าร่ม อย่าให้กินน้ำจนกว่าจะหายหอบจึงจะให้กินน้ำได้ไก่ผอมไม่ควรผึ่งแดดให้มากเพราะจะทำให้ผอมมากไปอีก ถ้าอ้วนเกินไปต้องผึ่งแดดให้มากสักหน่อย เพราะจะgclubทำให้น้ำหนักลดลงได้ ควรคุมน้ำหนักทุกครั้งที่มีการซ้อม และการเลี้ยงทุกวันตอนเช้า
  2. อาบน้ำประมาณ 7 วัน แล้วจึงเริ่มซ้อมครั้งแรกสัก 2 ยก ๆ ละไม่เกิน 12 นาที ซ้อมสัก 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ซ้อมยกละ 15 นาที รวมแล้วให้ได้ 6 ยก ระยะการปล้ำแต่ละครั้งควรจะมีเวลาห่างกันประมาณ 10 -15 วันพอครบกำหนดแล้วต้องถ่ายยาตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว

วิธีล่อ

เวลาประมาณบ่าย 2 โมงเย็น เอาน้ำเช็ดตัวไก่ที่เลี้ยงเล็กน้อย แล้วเอาไก่ที่เป็นไก่ล่อ จะเป็นการล่อทางตรงหรือทางอ้อมก็แล้วแต่สะดวก แล้วล่อไก่ให้ย้าย คือเอาไก่ล่อ ๆ วนไปข้างซ้าย 10 รอบ เย้ายวนไปทางขวา 10 รอบ ย้ายจนกว่าไก่ตัวถูกล่อจะไม่ล้มจึงจะใช้ได้ แล้วล่อให้ไก่บินบ้าง ล่อประมาณ 20 - 25 นาทีก็พอ พอเสร็จจากการล่อเอาขนไก่ปั้นคอ พอหายเหนื่อยแล้วอาบน้ำได้ เสร็จแล้วผึ่งแดดให้ขนแห้งแล้วกินอาหารได้

การใช้ขมิ้น

ทุกครั้งเวลาอาบน้ำไก่ในตอนเช้า ต้องใช้กระเบื้องอุ่น ๆ ประคบหน้าพอสมควร ถ้ามากนักจะทำให้หน้าเปื่อย แล้วทาขมิ้นบาง ๆ ทุกครั้ง บางคนใช้ทาเฉพาะหน้าอก ขา ใต้ปีก ตามเนื้อเท่านั้น (ใช้ได้เหมือนกัน)

การปล่อยไก่

ไก่ที่เลี้ยงไว้ชนพอเวลาแดดอ่อนๆควรได้ปล่อยไก่ให้เดินตามสนามหญ้าแพรกนอกจากจะให้ไก่ได้เดินขยายตัวแล้ว ไก่ยังมีโอกาสได้กินหญ้าไปในตัวด้วย วิธีแก้ไขให้น้ำหนักตัวลด เวลาไก่ชนที่เลี้ยงอ้วนเกินไปน้ำหนักตัวจะมากบินไม่ขึ้น ควรผึ่งแดดให้หอบนาน ๆ หากไก่ผอมมากไปไม่ควรให้ถูกแดดมากเกินไป เวลานอนควรให้นอนบนกาบกล้วย หรือเอาน้ำเย็นเช็ดตัวบาง ๆ ก่อนนอน การนอนควรนอนในมุ้งทุกคืนเพื่อมิให้ยุงไปรบกวน ไก่จะได้นอนหลับสบาย การเลี้ยงไก่ถ่าย การเลี้ยงไก่ถ่าย หรือไก่ที่เปลี่ยนขนตั้งแต่หนึ่งครั้งขึ้นไป วิธีเลี้ยงเช่นเดียวกับไก่หนุ่ม ผิดกันตรงที่ไก่ถ่ายต้องปล้ำให้ได้ที่ คือปล้ำครั้งละ 2 ยก ยกละ 15 นาที จำนวน 5 ครั้ง รวม 10 ยก หรือปล้ำจนกว่าจะบินไม่ล้ม แล้วผึ่งแดดให้นานกว่าไก่หนุ่มหน่อย นอกนั้นเหมือนกันหมด

ยาถ่ายไก่

ยาถ่ายโบราณคนนิยมใช้กันมากมีส่วนผสมดังนี้

  1. เกลือประมาณ 1 ช้อนคาว
  2. มะขามเปียก 1 หยิบมือ
  3. ไพลประมาณ 5 แว่น
  4. บอระเพ็ดยาวประมาณ 2 นิ้ว หั่นเป็นแว่นบาง ๆ
  5. น้ำตาลปีบประมาณ 1 ช้อนคาว
  6. ใบจากเผาไฟเอาถ่าน (ใช้ใบจากประมาณ 1 กำวงแหวน) ใช้ครกตำให้ละเอียดเข้า ด้วยกัน เวลาใช้ยาควรให้ไก่กินเวลาเช้าท้องว่าง

ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดหัวแม่มือ 2 เม็ด ให้น้ำกินมาก ๆ หน่อย แล้วครอบผึ่งแดดไว้รอจนกว่ายาจะออกฤทธิ์ ถ่ายเป็นน้ำ คาสิโนออนไลน์3 ครั้ง ก็พอแล้วเอาข้าวให้กินเพื่อให้ยาหยุดเดิน

น้ำสำหรับอาบไก่

ปกติไก่เลี้ยงจะต้องอาบน้ำยาจนกว่าไก่จะชน เครื่องยาที่ใส่น้ำต้มมีดังนี้

  1. ไพลประมาณ 5 แว่น
  2. ใบส้มป่อยประมาณ 1 กำมือ
  3. ใบตะไคร้ ต้นตะไคร้ 3 ต้น
  4. ใบมะกรูด 5 ใบ
  5. ใบมะนาว 5 ใบ

เอา 5 อย่างมารวมกันใส่หม้อต้มให้เดือดแล้วทิ้งไว้ให้อุ่น พออุ่น ๆ แล้วค่อยอาบน้ำไก่ แล้ว นำไปผึ่งแดดให้ขนแห้ง

ยาบำรุงกำลังไก่

ยาบำรุงที่นิยมกันมากมีหลายขนาน แต่จะยกมาขนานเดียว คือ

  1. ปลาช่อนใหญ่ย่างไฟ แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง 1 ตัว
  2. กระชายหัวแก่ ๆ ประมาณ 2 ขีด (แห้ง)
  3. กระเทียมแห้ง 1 ขีด
  4. พริกไทย 20 เม็ด
  5. บอระเพ็ดแห้ง 1 ขีด
  6. นกกระจอก 7 ตัว
  7. หัวแห้วหมู 1 ขีด
  8. ยาดำพอประมาณ

นกกระจอกนำไปย่างไฟแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปตำให้ป่น ปลาช่อนก็ตำให้ป่น แล้วนำทั้ง 8 อย่างมาผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนเท่าเม็ดพุทราให้กินวันละ1 เม็ดก่อนนอนทุกวันจนกว่าไก่จะชน ยาบางตำราไม่เหมือนกันแต่ได้ผลดีทั้งนั้น แต่ไปแพ้กันตรงที่ไก่เก่งไม่เก่งเท่านั้น ไก่ที่นำไปชนทุกครั้งถ้าไม่ได้ชน กลับมาจะต้องฉะหน้าถอนแข้งทุกgclubครั้ง ๆ ละ 5 นาที 1 ครั้ง ก่อนจะนำไปชนต่ออีก

วิธีให้น้ำไก่ขณะกำลังชน

วิธีให้น้ำ ไก่ชน

การใช้น้ำไก่เป็นสิ่งจำเป็นในการชนไก่เป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าท่านให้น้ำไก่ไม่เป็น เอาไก่ไปชนโอกาสแพ้มีมาก มือน้ำเท่านั้นเป็นผู้ชี้ชะตาไก่ของท่าน เพราะฉะนั้นท่านต้องเป็นคนให้น้ำไก่เก่งๆ จึงจะสู้เขาได้ วิธีให้น้ำไก่ก่อนชน ท่านต้องใช้ผ้ามุ้งบาง ๆ ชุบน้ำเช็ดตัวให้ทั่วตัวทุกเส้นขน แต่อย่างให้ปีกเปียก (เพราะปีกเป็นอุปกรณ์สำคัญในการต่อสู้) แล้วเช็ดให้แห้ง ให้กินข้าวสุก จนอิ่มแล้วปล่อยให้เดินเพื่อจะได้ขยายตัว และแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนำไก่เข้าชน พอหมดยกที่ 1 เอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าอก และใต้ปีกเสียก่อนจึงค่อยเช็ดตามตัวให้ทั่ว แล้วตรวจบาดแผลตามหัว ตามตัวว่ามีผิดปกติหรือเปล่า ตรวจดูตา ตรวจดูปากให้เรียบร้อย ถ้าปากฮ้อ ก็เตรียมผูก ถ้าตาหรี่ก็ควรเสนียดตา หรือถ่างตา เสร็จเรียบร้อยแล้วให้กินข้าวสุกที่บดไว้ ประมาณ 3 - 4 ก้อน แตงกวาแช่น้ำมะพร้าวอ่อน พอให้อิ่มแล้วเอาไก่นอน ๆ ประมาณ 5 นาที หลังจากนอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอากระเบื้องอุ่นมาเช็ดตามตัว ตามหน้าแข้ง ขาให้ทั่วบริเวณที่ถูกตี แล้วปล่อยให้เดิน และให้ไก่ถ่ายออกมาเพื่อจะได้ให้ตัวเบา (ยกต่อไปก็ทำเหมือนยกที่ 1 จนกว่าจะแพ้ ชนะกัน)

วิธีรักษาพยาบาลหลังจากไก่ชนแล้ว

ตามปกติไก่ที่ชนมาแล้วจะมีบาดแผลมากน้อยแล้วแต่กำหนดเวลาการต่อสู้ บางตัวก็ชนะเร็ว บางตัวก็ชนะช้าบาดแผลก็มีมาก เวลาชนเสร็จแล้วควรใช้เพนนิซิลิน อย่างเป็นหลอดทาตามหน้าให้ทั่ว เพื่อไม่ให้หน้าตึง อย่าใช้ขมิ้นเป็นอันขาด ถ้าบาดแผลมากจริงควรใช้ยาพวกสเตปโตมัยซิน หรือฉีดยาเทอรามัยซิน หรือจะให้กินยาเต็ดตร้าไซคลินก็ได้ วันละ 1 เม็ด ตอนเย็น ประการสำคัญ อย่าให้ทับตัวเมียเป็นอันขาด หลังจาก 1 เดือนไปแล้วให้ทับได้

gclub

ไก่ชนพันธุ์เขียวกา

ไก่ชนพันธุ์เขียวกา


ประวัติความเป็นมา
ไก่เขียวหางดำ เป็นไก่พื้นเมืองของไทยมาแต่โบราณ พัฒนามาจากไก่บ้านพันธุ์ กะตังอู หรือ ไก่อู มีมาพร้อมคนไทยโบราณ สืบได้ตั้งแต่ต้นสมัยสุโขทัยเป็นต้นมา ไก่เขียวหางดำ เป็นไก่พันธุ์หนึ่งมีชั้นเชิงดีมีลำหักลำโค่นดี นิยมเลี้ยงแพร่หลายตั้งแต่ชาวบ้านไปจนถึงขุนนางชั้นผู้ใหญ่ เช่น พระยาพิชัยดาบหัก เลี้ยงไก่เขียวหางดำ ชื่อ ไก่พาลี........คาสิโนออนไลน์

ไก่เขียวหางดำ ที่นิยมเป็นพันธุ์แท้จะเป็นไก่อุตรดิตถ์ ชลบุรี (พนัสนิคม) อยุธยา และแถบภาคใต้หลายจังหวัด ไก่เขียวหางดำเป็นไก่ในประวัติศาสตร์ และในวรรณคดีไทย เรื่องพระรถเมรี หรือพระรถเสน หรือนางสิบสอง ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ พระยาพิชัยดาบหักเป็นชาวอุตรดิตถ์ ชอบกีฬาชกมวย ฟันดาบ และชนไก่มาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อโตขึ้นได้ร่ำเรียนวิชาการ หนังสือ และวิชาป้องกันตัว คือมวยไทย และฟันดาบและชอบการเลี้ยงไก่ชนโดยเฉพาะไก่เขียวหางดำเป็นไก่ที่มีชั้นเชิง หลายกระบวนท่า มีลำหักลำโค่นดี จะตีคู่ต่อสู้ไม่เกิน 3 อัน เป็นที่เลื่องลือ แม้แต่พระยาพิชัยดาบหักยังยกย่องว่าไก่เขียวหางดำเป็นไก่เทวดา ต่อมาได้เข้ารับราชการรับใช้สมเด็จพระเจ้าตากสิน

ครั้งหนึ่งก่อนเสียกรุง ครั้งที่ 2 พม่ายกทัพมาล้อมทัพของพระยาพิชัยดาบหัก ได้ทำสงครามสู้รบกันทุกวัน กำลังทหารจึงล้มตายไปจำนวนมาก เสบียงอาหารก็ร่อยหรอ เห็นว่าถ้าขืนปล่อยให้พม่าล้อมไว้อย่างนี้คงต้องพังแน่ ก็เลยออกกลอุบายให้พักรบ 1 วัน ให้ทหารไปมาหาสู่กันนอกค่ายและจัดให้มีการชกมวย ชนไก่ ถ้าฝ่ายไทยชกมวยแพ้ ชนไก่แพ้ จะยอมให้ยึดค่าย แต่ถ้าฝ่ายพม่าแพ้ก็ให้เลิกทัพกลับไป พม่าหลงกลก็ยอมพระยาพิชัยฯ ให้ศิษย์เอกมวยไทยชกกับพม่า พม่าแพ้ และเอาไก่เขียวหางดำเป็นเหล่าพันธุ์ที่พระยาพิชัยฯ นิยมไปชนกับพม่า ไก่พระยาพิชัยฯ ชนะ พม่าต้องเลิกทัพกลับไป จึงเป็นการรักษาค่ายและชีวิตทหารเอาไว้ได้

ไก่เขียวเกี่ยวข้องกับ วรรณคดีไทย คือ ในเรื่องพระรถเมรี หรือนางสิบสอง พระรถเสนมีแม่และป้าตาบอดถึง 12 คน ถูกขังไว้ในถ้ำอดข้าวอดน้ำ พระรถเสนจึงต้องออกหาอาหารและน้ำมาเลี้ยงแม่และป้าทุกวัน เดือดร้อนถึงพระอินทร์สงสาร จึงมอบไก่แก่พระรถเสนให้นำไปชนพนันเอาข้าว 12 ห่อ มาให้แม่และป้ากิน

แหล่งกำเนิด ไก่เขียวหางดำมีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือของไทย ไก่เขียวมีชื่อเรียกต่างกันไปตามท้องถิ่น เช่น แถบภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี (พนัสนิคม) เรียก “เขียวพระรถ” ในภาคเหนือ จังหวัดอุตรดิตถ์ เรียก “เขียวพาลี” ส่วนภาคกลาง เรียก “เขียวพระยาพิชัยดาบหัก” และภาคใต้ เรียก “เขียวมรกต” และยังมีชื่ออื่นๆ อีก เช่น เขียวไข่กา, เขียวพระอินทร์, เขียวนิลสาริกา ไก่พันธุ์เขียวหางดำ ปัจจุบันค่อนข้างหายาก กำลังอนุรักษ์และพัฒนากันต่อไป
ประเภท ไก่เขียวหางดำ เป็นไก่ขนาดกลาง น้ำหนักโดยเฉลี่ย เพศผู้หนัก 3.00 กิโลกรัมขึ้นไป เพศเมียประมาณ 2.00 กิโลกรัมขึ้นไป
สีของเปลือกไข่ สีน้ำตาลนวล
ลักษณะลูกไก่ หัว หน้าอก ปีกไชนอกสีขาวเล็กน้อยคล้ายประดู่หางดำ ปาก แข้ง สีเขียวอมดำ หรือน้ำตาลอมดำ

ลักษณะเด่นประจำพันธุ์เพศผู้คาสิโนออนไลน์
# รูปร่างลักษณะ
ไก่ เขียวแมลงภู่หางดำ มีรูปร่างเพรียวยาวสูงระหง ทรงพญาหงส์ ลำตัวยาว ไหล่ยกกระเบนหางรัด หางสวยงามทรงฟ่อนข้าวหรือพลูจับ ก้านหางแข็ง ปั้นขาใหญ่กลมเรียกแบบลำหวาย หน้ากลมยาวแบบนกยูงหรือกา ยืนเหยียดขาตรงชูคอเล่นสร้อยตลอดเวลา
# คอ
คอใหญ่ปานกลาง ยาวระหง กระดูกปล้องคอชิดแน่น ลำคอโค้งเป็นรูปเคียว ขนสร้อยคอขึ้นเรียบเป็นระเบียบ
# ใบหน้า
ใบหน้ากลมยาว ผิวเรียบแบบหน้ากาหรือนกยูง
# ปีก
ปีกยาว สนับปีกใหญ่ ปีกเป็นลอนเดียว สีดำ สร้อยปีกสีเขียวอมดำ
# ปาก
ปากใหญ่ ปลายปากงอเล็กน้อย มีร่องปากหรือร่องน้ำทั้ง 2 ข้าง ปากสีเขียวอมดำ สีรับกันกับสีแข้ง เล็บ และเดือย ปากบนใหญ่กว่าปากล่างหุบปิดสนิท ไม่มีร่องโหว่ เง่าปากใหญ่และแข็งแรงgclub
#
# ตะเกียบ
แข็งแรง ชิด และตรง
# จมูก
รูจมูกกว้างยาวเป็นแนวตามปาก สันจมูกเรียบไม่เผยอ สีเดียวกับปาก
# หาง หางพัดและหางกระรวยสีดำสนิท หางพัดเรียงกันเป็นแนวจากล่างขึ้นบนตามลำดับ หางกระรวยดก ยาวเป็นฟ่อนข้าว ก้านหางแข็ง ปลายหางชี้ตรง กระเบนหางคอดรัดขั้วหางใหญ่และชิด กระปุกน้ำมันเดี่ยว
# ตา ขอบตาเป็นรูปวงรี คิ้วนูนเรียบตามเบ้าตา ดวงตาสีเขียวอมดำ สีเส้นเลือดแดงในตาชัดเจน ลูกตามีประกายแจ่มใส
# แข้งขา ปั้นขาใหญ่ล่ำสัน แข้งเรียวแบบลำหวาย ข้อขาตรง หนังปั้นขาออกสีชมพู ขนปั้นขาสีดำ
# หงอน หงอนเป็นหงอนหิน มีแฉกเล็กๆ 2 ข้าง ผิวหงอนเรียบ หน้าหงอนบาง กลางหงอนสูง ท้ายหงอนกดรัดกระหม่อม ไม่พับไม่ล้ม
# เกล็ด เกล็ดแข้ง เกล็ดนิ้วสีเขียวอมดำรับกับสีปาก เกล็ดเรียบเป็นแถวเป็นแนวยาวปัดตลอด มักมีเกล็ดพิฆาต เช่น กากบาท นาคราช เสือซ่อนเล็บ เหน็บใน ผลาญศัตรู งูจงอาง อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง
# ตุ้มหู ตุ้มหูรัดรึง ไม่หย่อนยาน สีแดงเหมือนสีหงอน รูหูกลม มีขนปิดหูสีเขียวอมดำเหมือนขนสร้อย
# นิ้ว นิ้วเรียวยาว ปุ่มนิ้วหรือตัวปลิงแน่น เกล็ดนิ้วมักแตกเป็นลักษณะต่างๆ เกล็ด เล็บ เดือย มีสีเขียวอมดำรับกับแข้งและปาก เ
# หนียง เหนียงเล็กรัดติดกับคาง สีแดงเหมือนสีหงอน
# เดือย เป็นเดือยแบบขนเม่นและงาช้าง เดือยแหลมคม สีเดียวกับแข้งหรือปาก
# กระโหลก กะโหลกหัวยาว 2 ตอน ส่วนหน้ายาวเล็กกว่าส่วนท้าย เห็นรอยไขหัวที่กะโหลกชัดเจน
# ขน ขนพื้นตัว หน้าคอ หน้าท้อง ใต้ท้อง ใต้ปีก สีดำตลอด ขนหางพัด หางกระรวยสีดำสนิท ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง และระย้า สีเขียวอมดำแบบสีแมลงภู่ ก้านขนแข็งเหนียว ไม่เปราะหรือหักง่ายคาสิโนออนไลน์

ลักษณะเด่นประจำพันธุ์เพศเมีย
เป็นไก่ทรงยาวจับ 2 ท่อน คอยาวลอนเดียว ขนพื้นตัว ขนหาง ทั้งหมดเป็นสีดำ ขนคอ ขนหลัง ปลายขน เป็นสีเขียวอมดำเล็กน้อยตามสีตัวผู้ จะเป็นเขียวอะไรก็ให้สังเกตที่ปลายขนสร้อยคอจะออกสีเขียวเล็กน้อย ปาก แข้ง เล็บ เดือย ตา สีเขียวอมดำ ยกเว้นเขียวนิลสาริกา และเขียวแมลงทับ ปาก แข้ง เล็บ เดือย จะมีสีขาว จาสีขาวปลาหมอตาย

สรุป
ไก่เขียวหางดำ เป็นไก่ที่งดงาม ทรงเพรียวระหง ขนพื้นตัว ขนหางพัด หางกระรวยสีดำสนิท ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลังเป็นสีเขียวอมดำ ปาก แข้ง เล็บ เดือย เป็นสีเขียวอมดำ

วิธีการผสมพันธุ์ไก่

วิธีการผสมพันธุ์ไก่ชน

ไก่ที่จะใช้ผสมพันธุ์ ต้องคัดเลือกจากไก่ตัวผู้ และตัวเมียที่มีความสมบูรณ์ ปราศจากโรคขี้ขาว เป็นหน่อ มะเร็ง คอคอก หวัด เพราะถ้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เป็นโรคแล้วอาจจะมาติดถึงลูกได้ เพื่อให้ได้ผลในการผสมพันธุ์ ควรใช้ตัวผู้ 1 ตัว ต่อ ตัวเมีย 5 ตัวและไม่ควรขังให้อยู่ในเล้าที่จำกัด ควรปล่อยให้อยู่ในที่กว้าง ๆ อาหารต้องสมบูรณ์อาหารที่ใช้คือ ข้าวเปลือก ปลาสด (ควรต้มเสียก่อน) หญ้าอ่อน ถ้าไม่มีหญ้าควรให้ผักสดกิน ถ้าทำเช่นนี้ได้จะได้ลูกไก่ที่สมบูรณ์ (ข้อสำคัญไก่ที่จะทำพ่อพันธุ์ และแม่พันธุ์ ควรนำไปให้ปศุสัตว์ตรวจโรคเสียก่อน)

การเตรียมรังสำหรับฟักไข่

ตามที่กล่าวมาแล้วนั้น กีฬาชนไก่เป็นกีฬาโบราณ ดังนั้นเวลาผสมพันธุ์ หรือทำรังให้ไก่ฟักย่อมมีพิธีรีตองมากเป็นธรรมดา ถ้าทำลำบากมักจะให้ประโยชน์คุ้มค่าเสมอ ท่านต้องหาของที่โบราณเขาถือมาใส่รังไก่ให้ครบ ท่านก็จะได้ไก่ที่ฟักออกมาเก่ง ๆ ทุกตัว

gclubของที่ใช้ประกอบการฟักไข่มีดังนี้

  1. กระบุง การใช้กระบุงทำเป็นที่รองสำหรับฟักไข่ ก็เพราะว่ากระบุงเป็นภาชนะสำหรับ ใส่ของซื้อ ของขายได้ทีละมาก ๆ จึงเป็นมงคลด้วย
  2. มูลฝอยสำหรับรองรังไข่ ควรใช้ของดังนี้
    • ไม้ฟ้าผ่า (ทำให้ไก่ตีแรง จนให้คู่ต่อสู้ชักดิ้น)
    • คราบงูเห่า (ทำให้แข้งมีพิษ)
    • ทองคำ (ทำให้สีสวย)
    • ไม้คานหักคาบ่า (ทำให้มีลำหักลำโค่น)
    • หญ้าแพรก (เวลาชนทำให้ฟื้นง่ายเหมือนหญ้าแพรก)
  3. การคัดไข่ การเก็บไข่ไว้ฟักควรเลือกไข่ที่สมบูรณ์ไม่บูดเบี้ยว และน้ำหนักมาก ไม่น้อย กว่า 45 กรัม หรือใกล้เคียง ถ้าท่านทำได้ตามนี้ท่านจะได้ไก่เก่งประมาณ 80% การทำรังให้ไก่ฟักไม่ควรให้แดดส่อง หรือฝนสาดได้เพราะจะทำให้ไข่เสีย การฟักแต่ละครั้ง ไม่ควรฟักเกิน 10 หรือ 11 ใบ ถ้าฟักเกินแล้วจะทำให้ไข่เสียมาก ฟักประมาณ

วิธีเลือกไข่ขึ้นฟัก

การเลือกไข่ขึ้นฟัก ใช้สมุดปกอ่อนม้วนเป็นรูปกระบอกแล้ว นำไข่ที่ฟักไปประมาณ 15 วัน ใส่ทางด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งใช้ส่องให้ตรงกับพระอาทิตย์gclub ถ้าไข่มีเชื้อจะมองเห็นเป็นสีดำสนิท แต่ถ้าไข่ไม่มีเชื้อจะมองเห็นในไข่เป็นแสงสว่าง ไข่คาสิโนออนไลน์ไม่มีเชื้อควรคัดออกได้เลย ถ้าเก็บไว้มาก นอกจากจะทำให้แน่นกันแล้ว จะทำให้ไข่ดีเสียไปมากอีกด้วย

วิธีเลี้ยงลูกไก่

ตามปกติลูกไก่อ่อนเป็นสัตว์ที่เลี้ยงยากมากเพราะจะมีโรคหลายชนิดแล้วยังจะมีสัตว์อื่นรบกวนอีกมากเช่น เหยี่ยว สุนัข งู แมว กา และสัตว์อื่น ๆ อีกหลายชนิด ดังนั้นท่านต้องระวังให้มาก หลังจากลูกไก่ออกแล้วให้นำลูกไก่มาขังไว้ในที่ ๆ สะอาด อย่าให้ลมโกรกมาก เวลานอนควรให้นอนในมุ้งอย่าให้ยุงกัดได้ เพราะจะทำให้เกิดโรคฝีดาษได้ อาหารสำหรับลูกไก่ ในระยะ 10 วันแรก ควรใช้ปลายข้าวกล้องอย่างละเอียด ผสมอาหารไก่อ่อนซึ่งมีขายตามร้านอาหารไก่ คลุกกับน้ำพอเปียกให้กิน ส่วนน้ำใช้ไวตามินผสมให้กินหลังจาก 10 วันไปแล้วใช้ข้าวกล้องเม็ดโตผสมอาหารไก่และน้ำเช่นเดิมให้กินพออิ่มแล้ว ใช้ปลาทะเลหรือปลาน้ำจืดต้มให้สุกปั้นเป็นลูกกลอนเล็ก ๆ ให้กิน หรือผสมกับอาหารไก่ให้กินหลังอาหารแล้ว พออายุประมาณ 1 เดือน เริ่มให้กินข้าวเปลือกเม็ดเล็กได้แล้ว หลังจากกินข้าวเปลือกอิ่มแล้ว ควรให้กินปลาตัวละประมาณเท่าหัวแม่มือทุกวัน ลูกไก่ที่ท่านเลี้ยงจะโตเร็วกว่าปกติ โรคสำหรับไก่ชนเราส่วนมากจะมีโรคร้ายแรงอยู่หลายชนิดด้วยกัน คือ โรคหลอดลมอักเสบ โรคหวัด โรคบิด ไก่ที่เป็นโรคชนิดนี้ส่วนมากกระเพาะอาหารไม่ย่อย หงอยซึมอยู่ตลอดเวลา ควรใช้ยาซัลฟาควินน็อกซาลิน ผสมน้ำตามส่วนให้กิน หรือใช้หยอดก็ได้ติดต่อกัน 3 วัน แล้วเว้น 1 วันจนกว่าจะหาย การเลี้ยงลูกไก่ หลังจากออกจากไข่แล้วประมาณ 10 วัน ควรให้อยู่กับแม่ก่อน สถานที่เลี้ยงไม่ควรให้แฉะ ควรเป็นที่ร่มมีแดดรำไรและที่สำคัญที่สุดต้องมีหญ้า เพราะหญ้าจะเพิ่มวิตามินซีให้กับไก่

gclub